ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ เรียกร้อง นายกรัฐมนตรี ยกเลิกโครงการพัฒนาครูแนวใหม่ เหตุค่าใช้จ่ายสูง ติงปรับครม.ครั้งหน้า ควรหา รตม.ศธ.ที่มีความรู้

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติและคณะ เดินทางมายื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช. ผ่านศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. ทำเนียบรัฐบาล

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ทางภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ หรือ ภตช. ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก ครู รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้อำนวยการสถานศึกษา รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถม-มัธยม ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถม-มัธยม จำนวนมากว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศการใช้หลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะและการพัฒนาข้าราชการครูแนวใหม่ โดยจัดหลักสูตรอบรมให้ครูสามารถเลือกได้ตามความต้องการ แต่ต้องผ่านการอบรม 50 ชั่วโมงต่อปี 250 ชั่วโมงต่อ5ปี จึงจะสามารถเลื่อนวิทยฐานะได้ 1 ระดับ โดยครูจะได้รับงบประมาณรัฐอบรมคนละ 10,000 บาท/คน/ปี ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณกว่าปีละ 4,000 ล้านบาทต่อปี ใช้กับครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา ทุกคน ทำให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติ เพิ่มภาระรายจ่ายค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่ากินอยู่ ให้ครูกว่า 400,000 คน คนละเฉลี่ยกว่า 50,000 บาทต่อคน เป็นการเพิ่มภาระรวมกว่า 20,000 ล้านบาท/ปี ซึ่ง ใช้เงินรัฐบวกเงินส่วนตัวครูกว่าคนละ 300,000 บาทต่อคนต่อ5ปี ต่อช่วงวิทยฐานะ ใช้เงินรวมกว่า 120,000 ล้านบาทต่อ 5 ปี แต่ถ้าเป็นการทำวิทยฐานะแบบเก่าเฉลี่ยเสียค่าใช้จ่ายต่อคนแค่ 70,000 บาท ต่อ 1 ช่วงวิทยฐานะเท่านั้น

อีกทั้งเงินดังกล่าวเป็นเงินงบประมาณเดิมที่ใช้กับตัวนักเรียน โรงเรียน สำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา-มัธยมศึกษาโดยตรง เมื่อนำเงินดังกล่าวมาอบรมครูทั้งหมด เปรียบเสมือนอาจจะเป็นการขโมยเงินนักเรียนไปเป็นรายได้ให้กับเอกชนผู้รับจัดอบรม

ทางภาคีเครือข่ายฯ จึงมองว่าอาจจะเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย และเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจการจ้างอบรม ธุรกิจโรงแรม และยังเป็นการบีบบังคับครูให้ต้องอบรมทุกคน อีกทั้งครูต้องเดินทางข้ามภาคไปอบรมระยะไกล และต้องสำรองจ่ายค่าอบรมก่อนคนละ 10,000 บาท

นอกจากนี้นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ศึกษาธิการ ยังสั่งการให้ เลขาธิการ สพฐ. ยกเลิกโครงการประจำที่จำเป็นของ นักเรียน โรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา-มัธยมศึกษา และ ยึดเงินเหลือจ่ายจากงบประมาณปี 2560-2561 ไปใช้ในโครงการอบรมครูทั้งหมด แทนที่ จะไปจ่าย ค่าไฟฟ้า-น้ำประปาที่ค้างจ่ายกว่า 1 พันล้านบาท

จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบนโยบายดังกล่าว และยกเลิกโครงการพัฒนาครูแนวใหม่ แต่หากจะมีการดำเนินการต่อต้องให้ประหยัดมากกว่าเดิม เช่น ให้วิทยากรอบรมใส่ซีดี แล้วยิงผ่านดาวเทียม พร้อมขอให้ยกเลิก เกณฑ์วิทยฐานะ และอยากให้ รมว.ศธ. อบรมนำล่อง 1,400 ทุกหลักสูตรก่อน เพราะ รมว.ศธ จำเป็นต้องรู้มากกว่าครู ถึงจะออกนโยบายมาบังคับกับครูทุกคนได้ และหากมีการปรับค.ร.ม.ครั้งหน้าอยากให้นายกรัฐมนตรีหาคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่มีความรู้ ไม่ใช่มองกระทรวงศึกษาธิการเป็นหนูทดลอง อีกทั้งยังมองว่าการอบรมหลักสูตรดังกล่าวยังเป็นสาเหตุของการเรียกแป๊ะเจี๊ยะเนื่องจากค่าอบรมมีราคาแพงด้วย