"พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ"เผยเตรียมส่งร่างสัญญาประชาคมปรองดองให้นายกรัฐมนตรีวันที่ 24 ก.ค.นี้ ก่อนเผยแพร่ต่อประชาชน โดยมั่นใจว่า คดีของนางสาว ยิ่งลักษณ์ และนาย จตุพร จะไม่กระทบต่อการสร้างความปรองดอง

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ครั้งที่ 5/2560 ว่า ในที่ประชุม คณะกรรมการได้พิจารณาผลการลงพื้นที่เปิดเวทีสาธารณะ ชี้แจงร่างสัญญาประชาคมครบทั้ง 4 ภาคแล้ว ซึ่งผลเป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง

หลังจากนี้จะมีคณะกรรมการพิจารณาเพิ่มเติมข้อคิดเห็นให้มากขึ้นและจะมีการแก้ไขก่อนส่งนำเสนอให้คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันจันทร์ที่24ก.ค.นี้

เมื่อนำเสนอเข้า ป.ย.ป. และนายกรัฐมนตรีรับฟังเรื่องดังกล่าวแล้ว จะมีการแถลงผ่านโทรทัศน์ และใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย รวมถึง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ประชาสัมพันธ์ชี้แจงถึงสัญญาประชาคมในระดับหมู่บ้านต่อไป ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จและประเทศจะเดินไปตามโรดแมป ที่วางไว้

ส่วนกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำนปช. ที่ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 1 ปี ในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และกรณีการพิจารณาคดีของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกรณีรับจำนำข้าวในขณะนี้จะมีผลต่อขบวนการปรองดองหรือไม่นั้น

พลเอก ประวิตร ระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของศาลและอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหารซึ่งเป็นคนละเรื่องกับกระบวนการสร้างความปรองดอง

เผยเปิดเวทีแจงร่างสัญญาประชาคมครบ 4 ภาคแล้ว

ด้าน พลตรีคงชีพ ตัณตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม ในฐานะประธานอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง แถลงหลังการประชุมว่า การทำงานเริ่มฟังความคิดเห็นทุกฝ่ายตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้นำความเห็นร่วมกันของทุกฝ่าย มาจัดทำเป็นร่างสัญญาประชาคม และได้เปิดเวทีชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในวันที่ 17 - 20 ก.ค.ที่ผ่านในพื้นที่ทั้ง 4 กองทัพภาคที่ผ่านมา

ซึ่งจะนำร่างประชาคมเสนอให้กับป.ย.ป.ในวันที่ 24 ก.ค. นี้ เพื่อให้คณะกรรมการปยป.ได้พิจารณาร่วมกัน พร้อมกำหนดวันประกาศใช้  ทั้งนี้ หลังจากการประชุมในวันที่ 24 ก.ค.นี้จะต้องขอดูรายละเอียดของเวลาที่เหมาะสมในการเผยแพร่ร่างประชาคมต่อประชาชนต่อไป ซึ่งทุกคนเห็นตรงกันว่า หากทุกคนร่วมมือกันทำให้เกิดเป็นรูปธรรมก็จะไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีกในอนาคต

"จตุพร"ปรับตัวในเรือนจำได้ หลังถูกจำคุกคดีหมิ่น"อภิสิทธิ์"

ส่วนกรณีที่ นายจตุพร ถูกศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 ปี และถูกนำตัวมาควบคุมต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น

นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวว่า นายจตุพร เคยถูกศาลตัดสินให้จำคุกที่เรือนจำพิเศษมาแล้ว ทำให้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมภายในได้และไม่มีปัญหา  ส่วนอาการป่วยโรคกรวยไต และโรคหมอนรองกระดูกอักเสบ ยังไม่มีอะไรผิดปกติ รวมถึงสามารถเดินได้ตามปกติ โดยพบว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (21ก.ค.) มีมวลชนบางส่วนเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ