ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนอดีตผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 3 คน หลังพบมีมูลความผิดทุจริตเงินบูรณะวัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา ยืนยันพบเพียงเจ้าหน้าที่ทำผิด ยังไม่พบวัดร่วมทำผิด

ป.ป.ช.ตั้งอนุฯ ไต่สวน 3 ผู้บริหารพศ. ปมทุจริตเงินทอนวัดพนัญเชิง

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณปฏิสังขรณ์วัด ตามที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.ตร.) ส่งสำนวนมาให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ 12 สำนวน

ซึ่ง ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า สำนวนการทุจริตเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา มีมูลความผิดชัดเจนเพียงพอ จึงตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนผู้เกี่ยวข้อง ที่เป็นอดีตผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) 3 คน ได้แก่ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ.  นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ. และน.ส.ประนอม คงพิกุล รอง ผอ.พศ. โดยพบว่า มีส่วนร่วมกระทำผิดเบิกจ่ายงบดังกล่าว มีมูลค่าความเสียหาย 20 ล้านบาท

โดยให้ นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการ ป.ป.ช.เป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดี ส่วนสำนวนคดีที่ ปปป.ส่งมาอีก 11 คดีนั้น ทางป.ป.ช.ให้แสวงหาข้อมูลเพิ่มเติม และทยอยสรุปให้ที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณา เพื่อแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนต่อไป

ทั้งนี้ ในสำนวนของ ปปป. พบเพียงแค่เจ้าหน้าที่กระทำความผิด ส่วนพระไม่ได้ถูกกล่าวหา แต่หากวัดมีส่วนรู้เห็นอาจต้องขอให้พระและบุคลากรในวัดมาเป็นพยาน

"สุวพันธุ์"ส่งดีเอสไอขอข้อมูล"เจ้าอาวาส"สืบคดีทุจริตเงินทอนวัด

ด้าน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณเงินอุดหนุน บูรณะปฏิสังขรณ์วัดทั่วประเทศว่า ได้ให้นโยบายกับหน่วยในศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ( ศอตช. ) ร่วมกันตรวจสอบและสอบสวน โดยให้ยึดหลักการตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบของการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐตามโครงการของพศ. และต้องสอบสวนให้ได้ถึงตัวบุคคลที่ทุจริต ทั้งที่เป็นข้าราชการ อดีตข้าราชการ หรือบุคคลอื่นที่

เกี่ยวข้อง ในส่วนกลางและต่างจังหวัด เพื่อนำไปสู่การพิจารณาดำเนินการทางวินัยหรืออาญาต่อไป โดยตนได้หารือกับพันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ให้เข้ามาช่วยทำงานเรื่องนี้ด้วย

ทั้งนี้ในการสืบสวนอาจมีความจำเป็นต้องเข้าไปขอข้อมูลข้อเท็จจริงจากคณะสงฆ์ผู้ปกครองของวัดต่างๆด้วย ซึ่งดีเอสไอจะเข้าไปชี้แจงกับเจ้าอาวาสหรือคณะสงฆ์ผู้ปกครองโดยตรง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงรอบด้านและช่วยกันทำให้การใช้งบประมาณส่วนนี้ เป็นไปเพื่อประโยชน์ของคณะสงฆ์และวัดอย่างแท้จริง โดยไม่มีการทุจริต