กกพ.จะสรุปค่าไฟฟ้างวดใหม่ โดยมีแนวโน้วว่าค่าเอฟทีอาจจะปรับขึ้นอีก 7 -8 สตางค์ต่อหน่วย

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. จะมีการประชุมเพื่อสรุปโครงสร้างค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ ค่าเอฟที ในงวดเดือนกันยายน ถึง ธันวาคมนี้ เบื้องต้น มีรายงานว่าการปรับขึ้นค่าเอฟที หรือ ค่าไฟฟ้าในงวดเดือนกันยายนถึงธันวาคมนี้ น่าจะปรับขึ้น 7–8 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากล่าสุดทิศทางค่าเงินบาทมีทิศทางที่แข็งค่าเพิ่มขึ้นจากงวดก่อนที่เฉลี่ย 35 บาท 19 สตางค์ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สามารถลดต้นทุนได้ โดยทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่าจะทำให้เอฟทีลดลง 5-6 สตางค์ต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นต้นทุนหลักมาจากราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักของการผลิตไฟฟ้าที่สะท้อนราคาน้ำมันย้อนหลัง 8-12 เดือน มีราคาปรับขึ้นกว่า 250 บาทต่อล้านบีทียู

ทั้งนี้ คณะกรรมการ กกพ.จะมีการพิจารณาโครงสร้างค่าเอฟทีที่จะเรียกเก็บใน บิลค่าไฟจากประชาชนงวดใหม่ และผ่านการประกาศรับฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ และประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวจะเร็วขึ้น 1 เดือนเพื่อให้สอดรับกับนโยบายกระทรวงการคลังที่ต้องการยกระดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจไทยให้ดีขึ้น

ก่อนหน้านี้ นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ในฐานะโฆษก กกพ. ได้ออกมายอมรับว่า ค่าเอฟทีงวดใหม่นี้มีทิศทางเพิ่มขึ้นตามทิศทางของราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลัก แต่คาดปรับขึ้นไม่ถึง 10 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากอาจมีเงินที่ได้จากค่าปรับและเงินชดเชยต่างๆ เข้ามาช่วย โดยค่าเอฟทีในงวด พฤษภาคมถึงสิงหาคม อยู่ที่ ลบ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากงวด มกราคมถึงเมษายน 2560 จำนวน 12.52 สตางค์ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมปัจจุบันอยู่ที่ 3.5079 บาทต่อหน่วย