สรุปคดี “ซินแสโชกุน” ฉ้อโกงเงิน พบมีผู้เสียหาย 757 คน เสียหายกว่า 51 ล้านบาท ขณะที่ตำรวจให้ผู้ที่ยังไม่เข้าแจ้งความ มาแจ้งความได้ที่กองปราบปราม

พลตำรวจเอกกวี สุภานันท์ ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 พลตำรวจตรีชวลิต แสวงพืช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมหน่วยงานในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรียกประชุมชุดสืบสวนคดี นางสาว พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน เจ้าของบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด ที่หลอกลวงประชาชนให้ร่วมซื้อสินค้า แล้วได้ผลตอบแทนเกินจริง เพื่อนำสำนวนคดี 42 แฟ้ม มาตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้าย

โดยคดีนี้ มีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้จำนวน 757 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 51 ล้านบาท ตำรวจได้สอบปากคำพยานทั้งหมด 175 คน ตรวจยึดบัญชีเงินฝาก และการทำธุรกรรมทางการเงิน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ถึงเดือนเมษายน 2560 พบมีเงินเข้าออกกว่า 200 ล้านบาท โดยจะเสนออัยการสั่งฟ้อง ซินแสโชกุน และพวกรวม 9 คน และบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด โดยมีซินแสโชกุนเป็นผู้อำนาจในฐานะนิติบุคคล ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ และซ่องโจร นอกจากนี้ ยังแจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง และหลีกเลี่ยงอากร เพิ่มเติมกับบริษัทฯ และซินแสโชกุน

ส่วนแม่ข่ายบางรายที่ได้รับเงินจากผู้เสียหาย ขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานว่า แม่ข่ายกลุ่มนี้ได้ร่วมกระทำความผิด แต่ทางตำรวจจะขยายผลสอบสวนต่อไป

ขณะที่พลตำรวจเอกกวี ฝากประชาสัมพันธ์หากผู้เสียหายคนใดที่ยังไม่เข้าแจ้งความ ขอให้เข้าแจ้งความที่ตำรวจกองปราบปรามได้

กองปราบแถลงสำนวนคดี "ซินแสโชกุน" เสียหาย 757 คน