ตำรวจคุมตัว มือวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ไป ขออำนาจศาลอาญาฝากขังผักแรก พร้อมคัดค้านประกันตัว เนื่องจากเกรงว่า จะหลบหนีและไปก่อเหตุซ้ำ

คุม"วัฒนา"มือวางระเบิดรพ.พระมงกุฎฯฝากขัง-ค้านประกัน

พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล คุมตัวนายวัฒนา ภุมเรศ ผู้ต้องหาวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จนเป็นเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ไปขออำนาจศาลอาญารัชดา ฝากขังเป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.-3 ก.ค. เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานบุคคลอีก 14 ปาก และ รอผลการตรวจประวัติต้องโทษจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร รวมทั้งผลตรวจพิสูจน์ของกลางในคดีจากกองพิสูจน์หลักฐานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศและมีอัตราโทษสูง เป็นคดีที่น่าสนใจของประชาชนทั่วไป และเกรงว่า หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวไปอาจจะหลบหนีและไปก่อเหตุซ้ำอีก

สำหรับ นายวัฒนา ถูก หมายจับรวม 7 หมาย ในข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย มีวัตถุระเบิดและอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน อนุญาต ให้ฝากขัง โดยส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี (มทบ.11)

"ศรีวราห์" ยัน ขยายผลหาขบวนการ

พลตำรวจเอกศรีวราห์ เปิดเผยว่า เป็นการฝากขังในกรณีวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเท่านั้น ส่วนการก่อเหตุวางระเบิดบริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล  หน้าโรงละครแห่งชาติ รวมไปถึงเหตุระเบิดอีก 3 เหตุการณ์เมื่อปี 2550 จะใช้วิธีอายัดตัวเพื่อดำเนินคดี

ส่วนการสืบสวนหาตัวผู้ร่วมขบวนการ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะมีการพาดพิงถึงบุคคลอื่น หากมีพยานหลักฐานเพียงพอก็จะดำเนินคดีทันที ซึ่งเรื่องนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้กำชับมาอย่างต่อแต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

สำหรับความผิดของ "นายวัฒนา" ในคดีวางระเบิดมีโทษอัตรา จำคุก 10 ปี ส่วนความผิดฐานพยายามฆ่า จำคุกตลอดชีวิต ส่วนการกระทำจะเข้าข่ายการก่อการร้ายหรือไม่ ขอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อน เพราะบางเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2550

รายงานข่าวแจ้งว่า ตามที่พนักงานสอบสวนได้ซื้อชิ้นส่วนประกอบระเบิดที่ "นายวัฒนา"ให้ปากคำ แล้วนำมาให้"นายวัฒนา" สาธิตประกอบให้ดู ใช้เวลา 30 นาที สามารถประกอบไอซีไทม์เมอร์ ตัวจุดระเบิดและลงเวลาได้ ซึ่งเป็นการ ยืนยัน ว่า นายวัฒนา มีศักยภาพพอที่จะประกอบวัตถุระเบิด ส่วนการสอบปากคำภรรยาและลูกชายนายวัฒนาให้การเบื้องต้นว่าไม่รู้เห็น

"ศรีวราห์" ยัน จะขยายผลหาขบวนการวางระเบิด หลังคุม "วัฒนา" ฝากขัง