ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศพร้อมใจกันเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดทั้งวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 231

บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 231 ตลอดทั้งวันวานนี้ (21มิ.ย.) ยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง

โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง จิตอาสา และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยดูแลและอำนวยความสะดวก และ จัดแถวเพื่อความเป็นระเบียบ รวมถึงชี้แจงทำความเข้าใจกฎระเบียบในการเข้าไปในพื้นที่พระบรมมหาราชวัง

ทั้งนี้ ประชาชนที่มีโอกาสมาต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและจดจำพระราชกรณียกิจนานัปการที่ยังประโยชน์สุขแก่คนไทยทั้งชาติ

ขณะที่ สำนักพระราชวัง ได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน มีจำนวนทั้งสิ้น 17,975 คน รวม 230 วัน มี 7,806,332 คน

และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 1,231,134.25 บาท รวม 230 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 609,887,961.51 บาท

ส่วนความคืบหน้าการจัดสร้าง พระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบ พระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

โดย พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า งานด้านโครงสร้างขณะนี้เสร็จสิ้นแล้ว  ด้านองค์ประกอบต่างๆ ทั้งงานศิลปกรรม เทวดา งานปั้นต่างๆ งานประณีตศิลป์ ค่อนข้างคืบหน้าไปมาก

ส่วนสระอโนดาต ที่จะติดตั้งโดยรอบพระเมรุมาศ ได้มีการวางผังทดลองแล้ว ส่วนรั้วรอบพระเมรุมาศ ขณะนี้ก็ใกล้ดำเนินการเสร็จสิ้น อาจต้องมีการทำสีลงรายละเอียดต่างๆ รวมถึงความแข็งแรง โดยทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี

ด้านอาคารประกอบต่างๆ มีความคืบหน้าร้อยละ 50 เร็วกว่าแผนที่กำหนด

ทั้งนี้ภาพรวมของ การจัดสร้างพระเมรุมาศ ถือว่าเป็นที่น่าพอใจและจะดำเนินการเสร็จสิ้นในเดือนกันยายน โดยการดำเนินงานทุกอย่างจะออกมาสวยงามและสมพระเกียรติ

สำหรับประชาชนทั่วไปที่ต้องการเข้าชมความงดงามของพระเมรุมาศ ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินงานซึ่งยังไม่ปลอดภัย แต่หากจัดพื้นที่อย่างเป็นระเบียบแล้ว อาจมีการเปิดให้ประชาชนเข้าชมในพื้นที่ที่ได้จัดไว้ให้ โดยเป็นพื้นที่สังเกตการณ์ ที่สามารถถ่ายภาพได้

นอกจากนี้ในเดือนกรกฎาคม 2560 จะเชิญ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศ รวมทั้งให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

โดยหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีแล้ว จะมีการจัดนิทรรศการเพื่อให้ประชาชนได้เข้าชมความงดงามของพระเมรุมาศรวมถึงความรู้ในการจัดสร้างพระราชกรณียกิจ โครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และความงดงามของจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ชมเป็นระยะเวลา 30 วัน

ส่วนการประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์เพื่อถวายในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ที่ห้องประชุมวิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง อำเภอเมืองอ่างทอง นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ คณะครูอาจารย์ นักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง จัดพิธีมอบเครื่องอัดกลีบดอกไม้จันทน์ ให้แก่นายอำเภอ ทั้ง 7 อำเภอ ของจังหวัด โดยแจกให้ อำเภอละ 2 เครื่อง รวมทั้งกลีบดอกไม้จันทน์ และ กระเปาะดอกไม้จันทน์ อย่างละ 1 หมื่นชิ้น เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560

โดย จังหวัดอ่างทอง ได้รับมอบหมายให้จัดทำดอกไม้จันทน์พระราชทาน จำนวน 2 แสน 8 หมื่นดอก ตามจำนวนประชากรของจังหวัด

นายวีร์รวุทธ์ กล่าวว่า ครู อาจารย์ และ นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง ได้คิดค้นประดิษฐ์เครื่องมืออัดกลีบดอกไม้จันทน์ ที่ดัดแปลงจากเครื่องตัดเหล็ก เพื่อผลิตกลีบดอกไม้จันทน์ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ และ แจกให้แก่ทุกอำเภอ คาดว่า อีกประมาณ 15 วัน จะมี วัสดุ ประดิษฐ์ ดอกไม้จันทน์ ที่เพียงพอ เนื่องจากก่อนหน้านี้ วัสดุ ที่ใช้ประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ขาดแคลนมาก

ปชช.แห่กราบถวายบังคมพระบรมศพวันที่ 231