คนทำใจสกปรก! ทุกฝ่ายรุมประณามมือระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ พบซุกแจกันวางห้องวงษ์สุวรรณ

ไปติดตามความคืบหน้า เหตุระเบิดที่รพ.พระมงกุฎเกล้า ซึ่งถือว่า เป็นคดีที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับคนในสังคมเป็นอย่างมาก โดย พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมหน่วยความมั่นคง ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด ระเบิดครั้งนี้หวังผลถึงชีวิต เนื่องจากใส่ตะปูจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง จึงเรียกหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมดมาประชุมปรับแผนการรักษาความปลอดภัยในภาพรวมของประเทศ ทั้ง 3 คดี คือระเบิดบริเวณด้านหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล ระเบิดด้านหน้าโรงละครแห่งชาติ และระเบิดครั้งนี้ ทางตำรวจที่รับผิดชอบต้องดำเนินการจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ และเป็นระเบิดไปป์บอม เพราะมีลักษณะเหมือนกัน

พลเอกเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ ถือว่าเป็นสิ่งเลวร้าย เพราะแม้แต่ช่วงสงคราม ระหว่างการรบ ยังไม่มีใครทิ้งระเบิดลงไปในโรงพยาบาล แต่คนร้ายเอาระเบิดไปวางในโรงพยาบาล ซึ่งมีผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นคนแก่ เป็นเรื่องที่สังคมต้องประณาม และปล่อยไว้ไม่ได้

ผบ.ตร.ระบุ ระเบิด 3 จุดกลางกรุง เชื่อมโยงกัน

ด้าน พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากที่เกิดเหตุพบว่า เป็นระเบิดชนิดไปป์บอม จุดชนวนด้วยการตั้งเวลา เนื่องจากพบ แผงวงจรไอซีไทม์เมอร์ เชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนิน และที่หน้าโรงละครแห่งชาติ เพราะวิธีการประกอบระเบิดนั้นเหมือนกัน

สำหรับห้องที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นห้องรับรองวีไอพี ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ด้านขวามือจากประตูทางเข้า ที่ใช้สำหรับตรวจอาการของนายทหารชั้นยศนายพล นายทหารสัญญาบัตรที่เกษียณอายุ โดยคนร้ายนำมาซุกซ่อนไว้ในแจกันดอกไม้ ขณะที่การตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาล พบว่ามีกล้องหลายตัวที่สามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยไว้ได้ แต่ภายในบริเวณดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นห้องตรวจ สำหรับนายทหารชั้นสัญญาบัตร แต่ก็อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่จึงขอเวลาในการตรวจสอบเพื่อหาความชัดเจน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังยอมรับว่า ด้านการข่าวมีการแจ้งเตือน และมีการตรวจสอบพบความเคลื่อนไหวตามโซเชียลมีเดีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทราบได้ว่ากลุ่มผู้ไม่หวังดีจะก่อเหตุที่บริเวณใด โดยขณะนี้ได้ทางนายกฯและรองนายก ฝ่ายความมั่นคง ได้สั่งการให้ทุกหน่วย เข้มงวดตรวจตรา เรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะในจุดเสี่ยง จุดล่อแหลมที่มีประชาชนจำนวนมาก รวมที่สถานที่เชิงสัญญาลักษณ์ต่างๆด้วย