สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เซ็นสัญญากับ มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ ในโครงการจัดทำแผนพัฒนาพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติระยะเวลา 20 ปี

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ลงนามเซ็นสัญญา คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ ในโครงการจัดทำแผนพัฒนาพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติระยะเวลา 20 ปี (2560 - 2579) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2560 ที่ห้องประชุม ภายในที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้จัดเซ็นสัญญาระหว่าง

สำหรับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นผู้สร้างกระบวนการ ให้เกิดแผนการพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติ ด้วยความรับผิดชอบของ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ, นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการและโฆษกประจำสมาคมฯ, ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ผศ.ดร.สิริพร ศศิมณฑลกุล คณบดี คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาฯ พร้อมด้วยตัวแทนจาก สมาคมฯ และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกันลงนามเซ็นสัญญาความร่วมมือในครั้งนี้

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ สมาคมได้มี การร่างแผนแม่บพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติระยะยาว 20 ปี โดยได้ใช้ระยะเวลา ในการสรรหาผู้ที่มีความเหมาะสม เข้ามาเป็นผู้สร้างกระบวนร่างแผนการพัฒนา จากพิจารณาจากหลายบริษัท หรือ หลายสถาบันที่เสนอตัวเข้ามา เราได้มีการสรุปและพิจารณาให้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้สร้างกระบวนการร่างแผนพัฒนา เพราะเป็นสถาบันที่มีประสบการณ์ มีความเข้าใจ การสร้างแผนงาน และสามารถทำให้วัตถุประสงค์ที่สมาคมตั้งไว้ บรรลุได้ตามเป้าหมาย”

“หลังจากเราได้เซ็นสัญญาตกลงแล้ว ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะเป็นผู้กำหนดกระบวนทัศน์ในการร่างแผน รวมถึงจะเชิญผู้มีความรู้ ผู้คร่ำหวอดในวงการฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นอดีตโค้ชทีมชาติ สโมสร นักกีฬาทั้งอดีตและปัจจุบัน ตลอดจนแฟนบอล สื่อมวลชน ที่ต้องการมีส่วนร่วมกับแผนครั้งนี้ นี่จะเป็นประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาฟุตบอลไทย ที่พวกท่านมีส่วนร่วมในการร่วมผลักดัน และพัฒนาให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน”

ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “ในนามของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต้องขอบคุณสมาคมฯ ที่ได้ให้โอกาส มหาวิทยาลัย ได้ทำหน้าที่เป็น ผู้สร้างกระบวนการ ให้เกิดแผนแม่บทการพัฒนาฟุตบอลระยะยาว 20 ปี นับเป็นความภูมิใจอย่างยิ่ง ในฐานะมหาวิทยาลัยที่มีการบริการต่อสังคม การมีแผนระยะยาวจะช่วยให้ การพัฒนากีฬา เติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถก้าวสู่ระดับสากลได้ในอนาคต”