สถานพินิจขอย้าย "หมูหยอง" ฆาตกรวัย 18 ปี ที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ "น้องรัน" หนุ่มวัย 25 ปี เข้าเรือนจำชัยภูมิ หลังพบว่า "หมูหยอง" มีพฤติกรรมก้าวร้าว จนยากแก่การควบคุม

พันตำรวจโทนัฐพล กิ่งโชค รองผู้กำกับการฝ้ายสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสถานพินิจ จังหวัดนครราชสีมา ได้แจ้งให้ทราบว่า ไม่สามารถรับตัว "หมูหยอง" เยาวชนชายวัย 18 ปี ที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นายนิรันดร์ สร้อยสูงเนิน วัย 25 ปี ซึ่งหลังถูกจับกุมได้ให้การรับสารภาพแบบไม่สะทกสะท้านว่า การฆ่าคนก็เหมือนฆ่ามดตัวหนึ่ง และไม่ไปกราบขอขมาพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต เพราะไปขอขมาแล้ว ผู้เสียชีวิตก็ไม่ฟื้น

โดยทางสถานพินิจ จังหวัดนครราชสีมา ได้ให้เหตุผลว่า เนื่องจาก "หมูหยอง" มีพฤติกรรมก้าวร้าว ยากแก่การควบคุมไว้ในสถานพินิจ จึงได้ทำเรื่องขออำนาจศาลเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา ให้นำตัวหมูหยองไปฝากขังที่เรือนจำ จังหวัดชัยภูมิแทน

ด้านนางกรรรณิการ์ วัชรินทร์ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า โดยปกติแล้ว หากเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดในคดีอาญา และไม่มีผู้มาประกันตัว จะถูกส่งไปยังสถานพินิจฯ แต่เนื่องจากคดีนี้ เป็นคดีอุกฉกรรจ์ และผู้ก่อเหตุ เคยมีคดีติดตัวมาก่อน จึงเกรงว่า จะเป็นอันตรายต่อเด็กและเยาวชน

เมื่อพนักงานคุมประพฤติสถานพินิจฯ จังหวัดชัยภูมิ ประเมินความเสี่ยงแล้ว จึงขออำนาจศาลเยาวชน และครอบครัว พิจารณาการควบคุมตัว ซึ่งทางศาลเยาวชน ก็ได้อนุญาตตามคำขอสถานพินิจ และนำตัวของ "หมูหยอง" ไปควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับนายวัชระ สาแก้ว หรือน็อต ที่ร่วมกันก่อเหตุในคดีนี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อย้อนหลังดูประวัติของ "หมูหยอง" พบว่า เคยก่อเหตุมาแล้วอย่างโชกโชน โดยเมื่อปลายปี 2559 เพิ่งก่อคดีฆ่าพนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ด้วยการใช้มีดแทงทั้งหมด 5 แผล ขโมยทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำ โทรศัพท์มือถือ และรถยนต์ป้ายแดง รวมถึงผู้เป็นพ่อแท้ๆ ของ "หมูหยอง" ก็เคยออกมาเปิดเผยว่า เคยถูกลูกชายทำร้ายจนเลือกกลบปาก รวมถึงเคยถูกลูกชาย เอาปืนขึ้นมาข่มขู่ว่า ไม่ให้มายุ่งวุ่นวายในชีวิตด้วย

ย้าย "หมูหยอง" เข้าเรือนจำ หลังก้าวร้าวจนสถานพินิจเอาไม่อยู่