ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คาด เดือนเมษายนนี้ ราคาสินค้าเกษตรจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 'ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์' ร้อยละ 1.5-3.0 'มันสำปะหลัง' ร้อยละ 1.97-5.26 'ยางพารา' ร้อยละ 5.26-9.0

นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในเดือนเมษายนนี้ คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรจะมีราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คาดว่า ราคาเฉลี่ยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ที่เกษตรกรขายได้จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.50-3.00 อยู่ที่ราคา 6.58-6.67 บาท/กก. เนื่องจากผลผลิตข้าวโพดรุ่น 2 เริ่มหมดจากตลาด และเข้าสู่ฤดูกาลปลูกข้าวโพดรุ่น 1 (ปลูกเดือนเมษายน-มิถุนายน) ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง ในขณะที่ปริมาณความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง น้ำตาลทรายดิบ คาดว่า ราคาเฉลี่ยน้ำตาลทรายดิบนิวยอร์คในตลาดโลก จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 2.00-5.00 อยู่ที่ราคา 19.46-20.07 เซนต์/ปอนด์ (15.11-15.48 บาท/กก.)

ส่วนมันสำปะหลัง คาดว่า ราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.97 -5.26 อยู่ที่ราคา 1.55-1.60 บาท/กก. ขณะที่ยางพารา คาดว่า สถานการณ์ราคายางพาราที่เกษตรกรขายได้จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 5.26-9.00 อยู่ที่ราคา 76.88-79.61 บาท เนื่องจากเข้าสู่ฤดูยางผลัดใบ ทำให้ผลผลิตบางส่วนหายไปจากตลาด สำหรับปาล์มน้ำมัน คาดว่า ราคาปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย ร้อยละ 1.21 – 5.26 อยู่ที่ราคา 5.00 – 5.20 บาท/กก. เนื่องจาก การดำเนินการตามประกาศแนะนำราคารับซื้อของกระทรวงพาณิชย์ ส่งผลต่อราคาปาล์มน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มลดลง ได้แก่ ข้าว คาดว่า ราคาเฉลี่ยข้าวเปลือกเจ้า 5% ที่เกษตรกรขายได้จะลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย ร้อยละ 1.0-3.7 อยู่ที่ราคา 7200-7400 บาท/ตัน ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิที่เกษตรกรขายได้จะลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.9-3.0 อยู่ที่ราคา 9000-9200 บาท/ตัน และราคาข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวจะลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.4 -2.2 อยู่ที่ราคา 11000-11200 บาท/ตัน เนื่องจากการประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมของภาครัฐในปริมาณมาก และอุปทานข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้นจากผลผลิตข้าวนาปีของเวียดนามและอินเดียที่จะออกสู่ตลาดก่อนหน้านี้