นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นหนังสือเรียกร้องให้กรมสรรพากร ยุติการประเมินภาษีนายทักษิณ ระบุหากเดินหน้าต่อ อาจถูกฟ้องร้องกลับคดีอาญาหลายคดี

ช่วงเช้า วานนี้ (27มี.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ตัวแทนทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือที่กรมสรรพากร เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนยุติการตรวจสอบ และการประเมินภาษีเงินได้จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

โดยระบุว่า การประเมินและเรียกเก็บภาษีจากอดีตนายกฯ นั้นไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมืองมีคำพิพากษาแล้วว่า นายพานทองแท้ และนางพินทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวนายทักษิณ ไม่ใช่ผู้ซื้อขายหุ้นชินคอร์ปตัวจริง และระบุว่า นายทักษิณเป็นตัวการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ซึ่งเข้าข่ายต้องเสียภาษีเงินได้พึงประเมิน ซึ่งการขายหุ้นเกิดเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 ดังนั้น กำหนดชำระภาษีคือวันที่ 30 กันยายน 2549 จึงไม่ใช่ครบกำหนดอายุความ 10 ปี ในวันที่31 มี.ค.60 เพราะขณะนี้ได้หมดอายุความ 10 ปี มานานกว่า 6 เดือนแล้ว

นายเรืองไกร กล่าวว่า หากสรรพากรยังเดินหน้าใช้อภิหารทางกฎหมาย จะต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาอีกหลายคดี จึงอยากให้กรมสรรพากรยึดหลักตามคำพิพากษาของศาลฎีกา เพราะการดำเนินการกรณีดังกล่าว น่าจะไม่ได้ยึดตามหลักของกฎหมาย แต่เกิดจากอคติส่วนตัวของบุคคลบางกลุ่มเท่านั้น

นายเรืองไกร ระบุอีกว่า การมาพบเจ้าหน้าที่สรรพากรครั้งนี้ มาในฐานะส่วนตัว เพราะยังไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจากนายทักษิณ แต่พร้อมที่จะให้นายทักษิณแต่งตั้งเป็นตัวแทน เพราะตนเองรู้ดีในเรื่องหุ้นชินคอร์ป

'สรรพากร'ติดใบประเมินภาษี'ทักษิณ'หน้าบ้านวันนี้

ขณะเดียวกัน วานนี้ (27มี.ค.) ทางกรมสรรพากร ได้นัดหมายให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจมารับทราบการ ประเมินภาษีจากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ป แต่ไม่ได้มีตัวแทนนายทักษิณเดินทางมาแต่อย่างใด หลังจากเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร จะนำหนังสือประเมินภาษีนายทักษิณ 1 หมื่น 7 พันหมื่นล้านบาทไปติดที่หน้าบ้านพักจันทร์ส่องหล้า เลขที่ 472 ถ.จรัญสนิทวงศ์ 69 แขวงและเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ในวันนี้ (28 มี.ค.)

หากนายทักษิณไม่เห็นด้วยสามารถทำเรื่องยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน แต่หากไม่ยื่นอุทธรณ์ตามกำหนด กรมสรรพากรจะเก็บภาษีทันที และหากผู้เสียภาษีไม่มาชำระ กรมสรรพากรจะใช้อำนาจยึดทรัพย์ เช่น เงินฝากและอสังหาริมทรัพย์เพื่อนำมาชำระค่าภาษีให้ครบต่อไป

ขณะที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายนายทักษิณ ระบุว่า ยังไม่เห็นหนังสือใดๆจากกรมสรรพากร และไม่ทราบถึงการให้ตัวแทนเข้ารับทราบผลสรุปประเมินภาษีเมื่อวานนี้ (27 มี.ค. )ด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้ส่งใครไปเป็นตัวแทนเข้ารับทราบผลประเมินภาษี