รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม เผยนายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งย้าย'นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล' ผู้อำนวยการขสมก.ไปปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกฯ เพื่อแก้ปัญหาการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีล่าช้า ยืดเยื้อ จนปัจจุบันยังหาข้อยุติไม่ได้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งให้นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ไปปฎิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าว เป็นการใช้อำนาจของนายกฯ ในการบริหารจัดการอัตรากำลัง กรณีมีอัตราว่างสามารถจัดกำลังไปลงในอัตรานั้นได้ โดยอ้างตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 68/2559 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐและการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว

สำหรับตำแหน่ง ผอ.ขสมก.ที่ว่างลงนั้น เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.ที่มี พลตำรววจเอก เอก อังสนานนท์ เป็นประธานจะพิจารณาแต่งตั้งรักษาการผอ.ขสมก. โดยคาดว่าบอร์ดขสมก. จะเรียกประชุมกันในวันนี้ (27 มี.ค.)

นายอาคม ยอมรับว่า สาเหตุการโยกย้าย นายสุระชัย พ้นจากตำแหน่งผอ.ขสมก.นั้น ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการจัดซื้อ รถเมล์ เอ็นจีวี จำนวน 489 คัน วงเงิน 3387 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ ขสมก.จะต้องเร่งพิสูจน์ตัวเอง เพื่อแก้ปัญหานี้ แต่คงไม่สามารถระบุได้ว่า ปัญหาการซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จะได้ข้อยุติภายในสัปดาห์นี้ หรือ สัปดาห์หน้า

ด้านนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าคำสั่งให้ ผอ.ขสมก.ไปปฎิบัติหน้าที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่การใช้อำนาจมาตรา 44 . แต่เป็นการใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี ซึ่งคำสั่งดังกล่าวมีผลเพียง ผอ.ขสมก. เท่านั้น ส่วนกรรมการ(บอร์ด) ขสมก. ยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และจะทำหนังสือแจ้งบอร์ดขสมก.เพื่อให้มีการประชุมบอร์ดเพื่อแต่งตั้งรักษาการ ผอ.ขสมก. ทันที

พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ ประธานบอร์ดขสมก. กล่าวว่า ยังไม่เห็นคำสั่งและไม่ทราบเรื่องนี้ หากได้รับคำสั่งเป็นหนังสืออย่างเป็นทางการ จะเรียกประชุมเพื่อแต่งตั้งรักษาการ ผอ.ขสมก. รวมทั้งเร่งสางปัญหารถเมล์เอ็นจีวี ด้านนายสุระชัย ให้สัมภาษณ์เพียงสั้น ๆ ว่า ยังไม่เห็นคำสั่งของนายกรัฐมนตรี แต่พร้อมน้อมรับ หากมีคำสั่งดังกล่าวออกมาจริง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสาเหตุในการถูกโยกย้ายครั้งนี้ เนื่องมาจากนายกรัฐมนตรีไม่พอใจการทำงานของ อดีต ผอ.ขสมก. ที่บกพร่องเกี่ยวกับการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ทำให้ถูกกรมศุลกากรอายัดไว้ เนื่องจากสงสัยว่ามีการสำแดงภาษีเท็จเลี่ยงภาษีนำเข้า ซึ่งบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ผู้ชนะการประมูล อ้างว่า ผลิตจากมาเลเซียจริง แต่กรมศุลกากรเชื่อว่ารถเมล์เอ็นจีวีผลิตจากจีน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปเรื่องแหล่งกำเนิดสินค้าได้ จนทำให้การส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีมาให้บริการประชาชน มีความล่าช้า และยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะเดินหน้าต่อไป หรือ ยกเลิกสัญญากับบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด