รัฐบาลเล็งยกระดับแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น ชูเอกลักษณ์ไทยในระดับอินเตอร์ เชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจรายได้การท่องเที่ยวปีนี้ แตะ 2.7 ล้านล้านบาท แน่นอน

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ทางกระทรวง จะเร่งผลักดันการท่องเที่ยวใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด เพื่อกระจายรายได้ และส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น

ซึ่งล่าสุด ที่ผ่านมา ได้มีการอบรมประชาชนตามโครงการเจ้าบ้านที่ดี จำนวน 1500 คน เพื่ออำนวยความสะดวก แนะนำการท่องเที่ยว ให้ความช่วยเหลือ และดูแลเรื่องความปลอดภัย รองรับช่วงเทศกาลท่องเที่ยวต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ซึ่งก็จะเข้ามาช่วยดูแล

อย่างไรก็ตาม ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้ ที่ 2.7 ล้านล้านบาท โดยตั้งเป้าผลักดันการใช้จ่ายต่อวันมากขึ้น สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และอยู่พักในไทยยาวนานมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาสินค้า และบริการให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังกล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้อนุมัติให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน มอเตอร์ จีพี (Motor GP) ว่า

การเสนอตัวดังกล่าว จะต้องแข่งขันกับอีก 3 ประเทศที่เข้าร่วมเสนอตัว โดยการเข้าร่วม หากได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน จะช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางด้านกีฬา หรือสปอร์ตฮัพ

จึงมั่นใจได้ว่า เงินลงทุน 300 ล้านบาท ในระยะเวลาจัดงาน 3 ปี ระหว่างปี 2561-2563 จะคุ้มค่าอย่างแน่ นอน เพราะรัฐจะใช้โอกาสนี้ โปรโมทการท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ใช่จะมีการกระจุกตัวแต่เพียงจังหวัดบุรีรัมย์เท่านั้น

ขณะที่พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา // จังหวัด // อำเภอ // และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ร่วมกันคิดและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่น

เพื่อให้เป็นทางเลือกใหม่กับนักท่องเที่ยว และทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนไทย ในแง่มุมที่แตกต่างกัน จนใช้เวลาท่องเที่ยวให้นานขึ้น ทั้งภาคเหนือ กลาง อีสาน ใต้ พร้อมทั้งสร้างกิจกรรมการท่องเที่ยว เชื่อมโยงจากจังหวัดหนึ่งไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง หรือชุมชนใกล้เคียง และเชื่อมต่อไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภูมิภาคอาเซียน

นอกจากนี้ พลโทสรรเสริญ ยังเปิดเผยอีกว่า นายกรัฐมนตรี รู้สึกยินดีที่สภาการเดินทางและท่องเที่ยวโลก ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะเป็นตลาดส่งออกนักเดินทางรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกแทนประเทศสเปน ภายในปี 2570 ถัดจากจีนและอินเดีย

หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวในประเทศไทย ขยายตัวมากที่สุดในอาเซียน ใกล้เคียงกับเวียดนาม คือ ร้อยละ 10.7 ส่วนภาพรวมของการท่องเที่ยวและเดินทางโลก ขยายตัวมากกว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ถึงร้อยละ 3.3 เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน สร้างรายได้ทั่วโลกราว 263.4 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.2 ของจีดีพีโลก

ก.ท่องเที่ยวฯ มั่นใจรายได้การท่องเที่ยวปีนี้ 2.7 ล้านล้านบาท