นายกรัฐมนตรี รณรงค์ ป้องกันยุงลาย บริเวณทำเนียบรัฐบาล พร้อมระบุ ยุงร้ายกว่าเสือ คนร้ายกว่ายุง ก่อนจะนำออกกำลังกายประจำสัปดาห์ ขณะที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว รับทราบแผนการระบายข้าว 8 ล้านตัน คาดระบายออกสู่ตลาดได้ทั้งหมดภายในปีนี้

 

นบข.รับทราบแนวทางระบายข้าว 8 ล้านตัน

เช้าวานนี้ (22มี.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นการรับทราบแผนการระบายข้าว 8 ล้านตัน ซึ่งเป็นข้าวค้างสต๊อกจากโครงการรับจำนำข้าว โดยได้มีการวางกรอบการทำงานตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งข้าวค้างสต๊อกโครงการรับจำนำข้าว แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ข้าวคุณภาพที่สามารถบริโภคได้ 3 ล้านตัน ซึ่งเปิดประมูลไปแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 1 ล้าน 3 แสนตัน และ อีกประมาณ 1 ล้าน 5 แสนตัน เห็นชอบให้เปิดประมูลรอบใหม่ในเดือนพฤษภาคม ส่วนกลุ่ม ที่ 2 ข้าวที่ไม่เหมาะสมกับการบริโภค แต่ยังสามารถนำเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เปิดประมูลไปแล้ว 3 ล้าน 6 แสน 6 หมื่นตัน จะมีการยื่นซองประกวดราคาในวันที่ 23 มีนาคมนี้ และกลุ่มสุดท้ายเป็นข้าวเสื่อมสภาพที่เก็บนานเกิน 5 ปีจำนวน 1 ล้านตัน ที่จะนำไปใช้ในอุตสหากรรมพลังงาน ซึ่งจะเปิดประมูลในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม นี้ ทั้งนี้ คาดว่า ข้าวค้างสต๊อกจะสามารถทำการระบายออกสู่ตลาดได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และจะส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดดีขึ้นตามลำดับ โดยที่ประชุมได้กำชับหามาตรการป้องกันไม่ให้มีการนำข้าวในกลุ่ม 2-3 ไหลกลับเข้าสู่ตลาดข้าวปกติอีก

 

'นายกฯ'รณรงค์ ป้องกันยุงลาย บอกคนร้ายกว่ายุง เพราะน่ารำคาญ

จากนั้นในช่วงบ่าย  นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำผู้บริหารกระทรวง คณะผู้บริหาร ข้าราชการ ประจำทำเนียบรัฐบาล ร่วมกิจกรรม “กำจัดลูกน้ำยุงลาย ก่อนออกกำลังกายทุกวันพุธ” ที่บริเวณด้านข้างตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดย นายกรัฐมนตรี ได้นำผู้ร่วมกิจกรรมเดินส่องสำรวจลูกน้ำยุงลายในภาชนะอ่างบัว ร่องระบายน้ำ และปล่อยปลาหางนกยูงในภาชนะอ่างบัวเพื่อเป็นการกำจัดลูกน้ำยุงลาย พร้อมทั้ง กล่าวว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันสำรวจลูกน้ำยุงลาย ป้องกันแหล่งเพาะพันธุ์ และช่วยกันเผยแพร่วิธีการกำจัดลูกน้ำยุงลาย

โดยได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานคร ร่วมสำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอีกด้วย พร้อมระบุว่า 'ยุงร้ายกว่าเสือ แต่คนร้ายกว่ายุง เพราะคนน่ารำคาญ ให้สื่อพาดหัวข่าวได้เลยเพราะรู้ว่าต้องการแค่นี้'

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ตนเองและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความเป็นห่วงสภาพอากาศที่ร้อนจัดในขณะนี้ จึงเลื่อนเวลาการออกกำลังออกไป เช่นเดียวกับทหารใหม่ที่ไม่เน้นการฝึกกลางแจ้งมากนัก เพื่อป้องกันอาการเป็นลมแดดและฮีทสโตรก

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมออกกำลังกายภายในบริเวณห้องโถงกลางตึกสันติไมตรี โดยการเต้นแอโรบิคอบอุ่นร่างกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นเวลา 20 นาที เพื่อเป็นการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง โดยมีเจ้าหน้าที่จากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นผู้นำออกกำลังกาย

ซึ่งภายหลังร่วมออกกำลังกาย นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวกับสื่อมวลชนด้วยว่า 'ยุงรำคาญมีทุกบ้านและมีวิธีกำจัดอยู่แล้ว แต่ถ้าคนรำคาญก็ต้องพิจารณาตัวเอง' ก่อนจะกลับขึ้นปฏิบัติภารกิจภายในตึกไทยคู่ฟ้า

'นายกฯ'รณรงค์ ป้องกันยุงลาย บอกคนร้ายกว่ายุง เพราะน่ารำคาญ