ราชกิจจาฯ ลงประกาศ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ คาดบังคับใช้เดือน ก.ย. กำหนดเพดานในอนาคต 20 ปี บุหรี่ขยับ 5 บาทต่อมวน ด้านอธิบดี แจงจัดเก็บจริงไม่สูงตาม ก.ม.แม่ หวั่นโลกออนไลน์สร้างความสับสน กักตุนสินค้า ย้ำให้ฟังประกาศอัตราจริง

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2560 ราชกิจจานุเษกษา ออกประกาศ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 โดยหลังกฎหมายประกาศจะมีผลบังคับใช้ใน 180 วัน หรือเดือนก.ย. ซึ่งหลังจากนี้จะออกกฎหมายลูก 80 ฉบับ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายแม่ โดยเฉพาะอัตราการจัดเก็บภาษีสินค้าต่างๆ เนื่องจากกฎหมายแม่กำหนดไว้เป็นเพดานสูงสุด แต่อัตราการจัดเก็บจริงจะปรับลดลงมาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากในกฎหมายแม่นั้นเพดานสูงเพราะมองถึงอนาคต 20 ปี

พร้อมย้ำว่า อัตราจัดเก็บจริงจะอิงการจัดเก็บภาษีในปัจจุบันเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการ แต่เป็นห่วงว่าหลังกฎหมายลงราชกิจจาฯแล้วจะมีการนำเพดานภาษีไปคูณราคาขายปลีกและนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ จนทำให้เกิดความสับสนเข้าใจกฏหมายแบบผิดๆ หรือมีการกักตุนสินค้ารับราคาใหม่ จึงอยากให้รอฟังอัตราจริง และประกาศจากกรมสรรพสามิต นอกจากนี้ จะเร่งประชุมชี้แจงกับภาคเอกชน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รวมถึงหอการค้าต่างประเทศในไทย และจะพิมพ์พ.ร.บ.แจก ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และมีคำอธิบายเกี่ยวกับภาษีให้เอกชน และผู้สนใจนำไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรง กัน สำหรับภาษีดังกล่าว เป็นการรวมกฎหมายสรรพสามิต 7 ฉบับ

ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต กฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต กฎหมายว่าด้วยสุรา กฎหมายว่าด้วยยาสูบ กฎหมายว่าด้วยไพ่ กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสรรพสามิต และกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสุรา

ซึ่งกฎหมายทั้ง 7 ฉบับใช้บังคับมาเป็นเวลานาน ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทั้งนี้สาระสำคัญของกฎหมาย มีการเพิ่มเติมบทนิยามที่สำคัญ เช่น คำว่า “ราคาขายปลีกแนะนำ” “ผลิต” “สุรา” “ยาสูบ” และ “ไพ่” ปรับปรุงวิธีการจัดเก็บภาษี จากจัดเก็บในอัตราตามมูลค่าหรือตามปริมาณ แล้วแต่อัตราใด จะคิดเป็นเงินสูงกว่า เป็นจัดเก็บทั้งตามมูลค่าและตามปริมาณ อาทิ บัญชีพิกัดอัตราภาษียาสูบ หน่วยละ 5 บาทต่อปริมาณหนึ่งมวน สุราแช่ ชนิดเบียร์ หน่วยละ 3000 บาทต่อปริมาณหนึ่งลิตรส่วนสถานอาบน้ำ หน่วยละ 1000 บาทต่อรอบ เปลี่ยนฐานในการคำนวณภาษีตามมูลค่าจากเดิม” สินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักร ใช้ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม และสินค้านำเข้า ใช้ราคา ซี.ไอ.เอฟ.

รวมทั้งสินค้าสุรา ใช้ราคาขายส่งช่วงสุดท้าย เป็นราคาขายปลีกแนะนำ กำหนดอัตราภาษีให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และปรับปรุงอายุความประเมินภาษีจาก 2 ปี เป็น 5 ปี กำหนดบทโทษให้เหมาะสมกับปัจจุบัน รวมถึงให้มีผลบังคับใช้ไปในอนาคตอย่างน้อย 20 ปีข้างหน้า.

อ่านต่อเพิ่มที่นี่