ตำรวจชุดปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ และ รถจักรยานยนต์นครบาล แถลงผลการบุกตรวจอู่รถยนต์ที่ จ.ลพบุรี หลังเปิดเป็นร้านรับซื้อของเก่าบังหน้า เพื่อชำแหละซากรถ และสวมทะเบียนปลอม สามารถยึดของกลางได้จำนวนมาก

ตำรวจนครบาล (บชน.) เคลื่อนย้ายของรถกลาง ทั้ง รถเก๋งยี่ห้อโรเวอร์มินิ 5 คัน รถเก๋งมินิคูเปอร์ 1 คัน และ รถจักรยานยนต์ พร้อมด้วยของกลางทะเบียน และเอกสารประกอบรถ จำนวนมากมาแถลงข่าว  หลังไปจับกุม นางสาว ปิยะภร ปลายสันเที๊ยะ ที่ประกอบกิจการค้าของเก่า ในพื้นที่ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา

พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พลตำรวจตรีสุรชัย ควรเดชะคุปต์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ชุดทำงานได้ติดตามการกระทำความผิดเกี่ยวกับรถทุกชนิดที่ทำผิดกฎหมาย จนกระทั่งสืบทราบว่ามีแหล่งผลิตรถจดประกอบอยู่ที่ จ.ลพบุรี

จึงขอหมายศาล นำกำลังไปทำการตรวจค้น พบว่า ภายในประกอบกิจการ ลักษณะชำแหละซากรถยนต์ และซ่อมรถยนต์ สามารถยึดรถของกลาง และชุดเอกสารประจำตัวรถได้จำนวนมาก และ เมื่อตรวจสอบในฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วไม่พบข้อมูลแต่อย่างใด พร้อมทั้งตรวจสอบหมายเลขตัวรถ ปรากฏว่า ไม่พบข้อมูลเช่นกัน

นอกจากนี้ได้ตรวจยึดอุปกรณ์ตอกอักษรหมายเลขตัวเครื่องรถ จึง สันนิษฐาน อู่ดังกล่าวน่าจะ ตอกอักษรเลขตัวรถปลอมลงในรถยนต์ เพื่อสวมทะเบียนปลอมไปขายให้ลูกค้า

พลตำรวจโทศานิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รถรุ่นดังกล่าว ราคาอยู่ที่ประมาณ 2-3 แสนบาท หากผ่านการเสียภาษีได้จะมีมูลค่าถึงคันละ 1 ล้านบาท ส่วนเล่มทะเบียนปลอมหรือเอกสารอื่น ๆ ขายทั่วไปประมาณ 20000 บาท  ยืนยันว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการต่อทะเบียนให้รถจดประกอบแล้ว จึงฝากเตือนผู้ที่ครอบครองรถเหล่านี้ ขอให้ทำการตรวจสอบเลขทะเบียนรถก่อนที่จะซื้อรถยนต์มาใช้ โดยเฉพาะเลขเครื่องยนต์ที่อาจถูกทำขึ้นมาสวมซากรถด้วยวิธีการตอกเลขทำขึ้นใหม่ ซึ่งอาจต้องให้ผู้ชำนาญการตรวจสอบ

จึงขอแนะนำให้สังเกตุเบื้องต้น ที่เล่มทะเบียนรถยนต์ถ้ามีตราประทับเขียนว่า ออกแทนฉบับเดิมที่สูญหาย และ รายมือชื่อของเจ้าหน้าที่เซ็นต์ไม่สามารถยืนยันตัวได้ ของให้พึงระวัง เพราะอาจจะเป็นเล่มทะเบียนปลอม เพราะ หากใครครอบครองไว้ก็จะมีความผิดตามกฎหมาย

จากการสอบสวน นางสาวปิยะภร ให้การว่า เป็นผู้ดูแลสถานที่เท่านั้น โดยมี นายอำนวย สามี ซึ่งกำลังหลบหนีเป็นเจ้าของกิจการ เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันปลอม และใช้เอกสารราชการปลอม และร่วมกันประกอบกิจการค้าของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ร่วมกันค้าของเก่าโดยไม่มีสมุดบัญชีสำหรับลูกค้า โดยตำรวจจะขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีทั้งหมด

ตำรวจนครบาลแถลงจับอู่ปลอมเอกสารสวมซากรถยนต์