นายกรัฐมนตรีเป็นประธานงานวันครูแห่งชาติ ครั้งที่ 61 ประจำปี 2560 ที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยนายกฯได้เข้าคารวะครูทั้ง 2 คนที่เคยสอนสมัยเรียนโรงเรียนนายร้อยจปร. พร้อมยกย่องอาชีพครูเป็นอาชีพที่เสียสละ แม้ไม่ใช่อาชีพที่ดีที่สุด แต่เป็นอาชีพที่น่าภูมิใจมากที

ช่วงเช้า วานนี้ (16ม.ค.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธาน เนื่องในวันครูแห่งชาติ ครั้งที่ 61 พ.ศ.2560 ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้หัวข้อ 'พระผู้ทรงเป็นบูรพาจารย์แห่งแผ่นดิน' โดยมี นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ และคณะครูเข้าร่วมงาน ซึ่งปีนี้ นายกฯ มอบคำขวัญวันครู พ.ศ.2560 ว่า 'ชาติพัฒนา ด้วยครูดี มีคุณภาพ ศิษย์ซาบซึ้งในพระคุณครู'

โดย พลเอก ประยุทธ์ เข้าคารวะครู 2 ท่าน ได้แก่ พลตรีหญิงศรีสมร ทังสุบุตร ครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 5 และ พลตรีหญิง อรพินท์ เพชรพลอย ครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ยุโรป ชั้นปีที่ 3 และวิชาประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกไกล ชั้นปีที่ 4 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) ก่อนมอบรางวัลให้กับผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาชาติ และผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา

นายกฯชี้ยกย่องครูเป็นอาชีพที่เสียสละ และน่าภูมิใจที่สุด

นายกฯ กล่าวว่า วันครู ถือเป็นอีกวันหนึ่งที่ทุกคนจะได้แสดงความกตัญญู เพราะครูเป็นผู้ที่สร้างสรรค์ภูมิปัญญา ให้ความรู้ ให้การศึกษา ถ้าไม่มีครู ประเทศชาติก็เดินหน้าไม่ได้ จึงถือเป็นวันเกียรติยศแก่ครู และอยากให้ครูมีความภูมิใจ เพราะมีไม่กี่คนที่ถูกเรียกว่า'ครู'

ครูถือเป็นผู้เสียสละ เพราะแม่และภรรยาของตนเองก็เป็นครู จึงรู้ว่าเหนื่อยยาก เด็กและครูจึงต้องปรับตัวเข้าหากันตลอดเวลา พร้อมกันนี้ขอให้ครูน้อมนำแนวพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ ขณะที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้เน้นย้ำให้ความสำคัญในเรื่องการสอนระเบียบวินัยและความอดทนอดกลั้น ขอให้ดึงศักยภาพของเด็กออกมา ทุกคนต้องแสดงความเป็นครู อย่าให้เด็กใช้โซเชียลในทางที่ไม่ถูกต้อง แม้ครูที่ไม่ใช่อาชีพที่ดีที่สุด แต่เป็นอาชีพที่น่าภูมิใจที่สุด เริ่มที่ 06.08 ที่ผมกล่าวมาแล้วทั้งหมด มีคนไม่กี่คนที่ถูกเรียกว่า เป็นครู จบที่ 06.36 38 ปีในกองทัพ เริ่มที่ 16.02 วันนี้ต้องการให้ครู จบที่ 16.17 ทุกคนต้องทำตัวเป็นครู

นายกฯแจงไม่หวังสืบทอดอำนาจ-ไม่ต้องการทำร้ายใคร

นายกฯ กล่าวว่า ปัจจุบันทุกคนต้องก้าวผ่านความขัดแย้ง ทั้งเรื่องของประชาธิปไตย และการแบ่งสี ซึ่งรัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังทำร้าย หรือ บังคับใคร แต่ต้องการให้ทุกคนทำตามกฎหมาย ส่วนเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้น ย้ำว่า ไม่ได้เพื่อแสวงหาประโยชน์ และไม่ได้สืบทอดอำนาจตามที่ใครบอกไว้ แต่เพียงสืบทอดอำนาจของประชาชนด้วยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และไม่ได้มองเรื่องการเมืองด้วย

พร้อมขอความร่วมมือทุกคนอย่าใช้อารมณ์ และยืนยันว่า ตนไม่ได้เข้ามาทำลายใคร แต่ต้องการให้ทุกอย่างเข้าสู่ระเบียบ โดยไม่ได้คิดถึงประโยชน์ตัวเอง แต่คิดถึงว่า ประเทศชาติต้องมาก่อน ไฟล์ 31 เริ่มที่ 12.44 ทุกวันนี้ผมไม่เคยไปปิดท่าน จบที่ 13.47 เพราะประชาชนคือเจ้าของประเทศ

2 ครูภูมิใจ'พล.อ.ประยุทธ์'เป็นคนดี-มีคุณธรรม

ด้านพลตรี หญิง ศรีสมร กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้พบกับนายกฯ โดยนายกฯได้ถามถึงเรื่องสุขภาพและขอให้ตนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ส่วนตัวรู้สึกภาคภูมิใจกับลูกศิษย์คนนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นคนดี เป็นคนเก่ง มีคุณธรรมและจริยธรรม ทำงานหนักเพื่อบริหารประเทศให้มีความสำเร็จ ก้าวหน้า

ขณะที่พลตรี หญิงอรพินท์ กล่าวว่า นายกฯเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย เป็นลูกศิษย์ที่ทำตัวน่ารักเสมอ และถือว่า พลเอกประยุทธ์ ได้เสียสละเพื่อบ้านเมือง เข้ามาแก้ไขสถานการณ์และบริหารประเทศ ซึ่งนายกฯ ถือเป็นอีกหนึ่งความหวังของประเทศที่จะช่วยพัฒนาไปสู่บรรยากาศที่ดีขึ้น

นายกฯ ประชุมกนจ.หารือใช้งบพัฒนาจังหวัด

จากนั้นในช่วงบ่าย นายกฯ ได้เดินทางกลับมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (กนจ.) ครั้งที่ 1/2560 หลังการประชุม นายกฯ กล่าวภายหลังประชุมว่า ในที่ประชุมได้หารือเรื่องการใช้งบประมาณเพิ่มเติมปี 2560 ในอีกหลายพันโครงการ

ซึ่งเป็นการคิดร่วมกันในระดับพื้นที่ ผู้ว่าราชการในแต่ละจังหวัดเสนอแผนงานขึ้นมา และนำไปเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการกลุ่มจังหวัดขึ้นมาถึงคณะกรรมการข้างบน

โดยสิ่งที่ทั้งหมดที่เสนอมาต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีข้างหน้า พร้อมยืนยันว่า ยุทธศาสตร์ชาติไม่ใช่ยุทธศาสตร์ทหาร แต่เป็นเพียงกรอบนโยบายว่า ประเทศจะเดินไปแบบไหนเท่านั้น

กนจ.เห็นชอบงบ 1.15แสนล้านพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัด

ด้านนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมกนจ.ได้เห็นชอบกรอบวงเงินโครงการตามแนวทางการสร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ วงเงินรวม 115000 ล้านบาท

แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ โครงการตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด วงเงิน 80000 ล้านบาท โครงการตามกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 20000 ล้านบาท และโครงการลงทุนเพื่อสร้างการเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มจังหวัด วงเงิน 15000 ล้านบาท ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาเห็นชอบต่อไป