กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยสถานการณ์น้ำท่วมใน 4 จังหวัดภาคใต้เริ่มคลี่คลาย แต่ยังมี 8 จังหวัดที่ประสบภัย พร้อมเตือนระวัง 14-19 มกราคม มรสุมปกคลุมภาคใต้ อาจทำให้มีฝนตกหนัก ขณะที่ชาวตรังเริ่มเครียด หลังต้องมาพักอาศัยอยู่ริมถนน นานนับสัปดาห์

ฝนที่ตกลงมาอีกรอบในช่วงค่ำวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดตรัง ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่น้ำท่วม ต้องอยู่ในภาวะเครียด และกังวลมากขึ้น โดยเฉพาะชาวบ้านริมแม่น้ำตรัง หมู่ที่ 4 ตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง หลายครอบครัว ที่ได้ขนข้าวของมาพักอาศัยริมถนนนานนับสัปดาห์

โดยส่วนใหญ่จะเครียดในเรื่องของรายได้ และค่าใช้จ่ายในครอบครัว เพราะหากจะออกไปทำงาน ก็ยังเป็นห่วงทรัพย์สิน รวมถึงคนชรา และเด็ก เพราะเกรงว่า จะไม่ปลอดภัย

ขณะที่ตำรวจชุดสายตรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองตรัง ได้ออกตรวจพื้นที่ เพื่อช่วยดูแลทรัพย์สินประชาชน พร้อมแนะนำวิธีป้องกันทรัพย์สินสูญหาย เพื่อให้ชาวบ้านรู้สึกอุ่นใจ

นางสมนึก ทองมาก ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 4 ตำบลบางรัก เล่าว่า ครอบครัวของตนเอง ได้ขนของหนีน้ำมาอาศัยริมถนน 8 วันแล้ว เนื่องจากบ้านถูกน้ำท่วม ซึ่งทำให้รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่รู้ว่า จะได้กลับเข้าบ้านวันไหน ประกอบกับไม่มีรายได้จุนเจือครอบครัว

ส่วนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 7 ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน กว่า 50 ครัวเรือน ต้องกางเต็นท์ขนาดใหญ่ริมถนนสายสุราษฎร์ธานี - ตะกั่วป่า ช่วงกิโลเมตรที่ 12 เพื่อขนข้าวของ มาพักอาศัยชั่วคราว หลังน้ำท่วมสูงตั้งแต่ช่วงดึกคืนวันที่ 13 ที่ผ่านมา

นายเฉลิมศักดิ์ นามจำปา ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 7 ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน เล่าว่า ขณะนี้ชาวบ้านที่ประสบปัญหาน้ำท่วม กำลังเดือดร้อนเรื่องห้องน้ำ ห้องส้วม เพราะชาวบ้านต้องอาศัยห้องน้ำวัด ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 3 – 4 กิโลเมตร ซึ่งในตอนกลางวันไม่ค่อยมีปัญหา แต่กลางคืนค่อนข้างลำบาก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มวลน้ำกำลังไหลเข้าพื้นที่ตอนล่างของอำเภอพุนพิน เจ้าหน้ายังคงใช้เรือผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำ บริเวณสะพานจุลจอมเกล้าอย่างต่อเนื่อง และมีแผนเพิ่มเรือผลักดันน้ำอีก 13 ลำ เพื่อระบายน้ำลงทะเลให้เร็วที่สุด

เช่นเดียวกับที่จังหวัดสงขลา ที่ปริมาณน้ำยังท่วมสูง ประกอบกับปริมาณน้ำในทะเลสาบสงขลา ยังคงมีปริมาณมาก ทำให้กระบือตายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังพบว่า กระบือมีอาการป่วยจำนวนมาก เจ้าของฝูงกระบือ ที่บ้านหัวป่า ต้องเร่งฉีควัคซีนให้กับกระบือ

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้กระบือในพื้นที่ ล้มป่วยจากโรคทางน้ำ และยังอดอาหาร เจ้าของกระบือได้นำขึ้นมาอยู่ริมถนนชั่วคราว โดยขณะนี้ กระบือในพื้นที่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ตายไปแล้วเกือบ 200 ตัว ส่วนที่เหลือยังป่วยเป็นโรค ต้องเร่งทำการรักษา

ด้านนายณรงค์ สุทธิสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง ได้ลงพื้นที่ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน บริเวณถนนสายไสกลิ้ง – หัวป่าเขียว สะพานเฉลิมพระเกียรติ หมู่ที่ 2 ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดพัทลุง และจังหวัดสงขลา เพื่อตรวจดูแลสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน ป้องกันการป่วย และตายด้วยโรคระบาด

โดยนายณรงค์ บอกว่า ทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง และศูนย์วิจัย และพัฒนาอาหารสัตว์พัทลุง ได้บริการหญ้าแห้ง และหญ้าสดแก่เกษตรกรไปแล้วกว่า 200 ตัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และขณะนี้ ยังได้ตั้งงบประมาณจัดซื้ออาหารสำเร็จรูปสำหรับปศุสัตว์ไปแล้ว คาดว่า จะขนส่งถึงจังหวัดพัทลุงในวันนี้ และจะได้นำไปแจกจ่ายให้กับเกษตรกรทันที

ส่วนความเสียหายด้านปศุสัตว์ที่เกิดขึ้น ขอให้เกษตรกรแจ้งรายละเอียดแก่ปศุสัตว์อำเภอ เพื่อทำการตรวจสอบ และทำการจ่ายเงินชดเชยให้ต่อไป

ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดขบวนรถพิเศษลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ ลงพื้นที่ภาคใต้ โดยนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขบวนรถพิเศษนี้ สามารถเดินทางมาได้เพียงแค่สถานีชุมทางทุ่งสงเท่านั้น ก่อนจะมีการลำเลียงสิ่งของบรรทุก ออกช่วยเหลือประชาชน

ทั้งนี้ นายวุฒิชัย ได้ลงพื้นที่ตรวจเส้นทางรถไฟที่เสียหาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ ได้เร่งซ่อมแซมเส้นทางแล้ว เบื้องต้นต้องใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว ในจุดเสี่ยงในเส้นทางสายใต้ ได้เตรียมเสนอแผน การแก้ไขปัญหาช่องลอดทางน้ำทั่วเส้นทางภาคใต้ ซึ่งต้องใช้งบประมาณกว่า 770 ล้านบาท

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า ฝนที่ตกหนักตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้

โดยมีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด / รวม 119 อำเภอ / 721 ตำบล / 5476 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 521574 ครัวเรือน รวม 1603541 คน / มีผู้เสียชีวิต 36 คน / สูญหาย 1 คน

ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด คือ ยะลา / ระนอง / ปัตตานี และนราธิวาส และยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 8 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง / สงขลา / ตรัง / สุราษฎร์ธานี / นครศรีธรรมราช / ชุมพร / กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ รวม 76 อำเภอ 455 ตำบล 3672 หมู่บ้าน

จาการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ฝนในภาคใต้ลดลง ทำให้สถานการณ์คลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ในช่วงวันที่ 14-19 มกราคมนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตอนเพิ่มขึ้น จึงประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมรับมืออุทกภัยและดินถล่ม

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันนี้ว่า ประเทศไทยตอนบน มีอากาศเย็น และอุณหภูมิ จะลดลง 3-6 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีฝนบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนลดลงในระยะนี้