หวิดวางมวย กรณีรถเบนซ์จอดขวางหน้าโรงเรียน เจ้าของรถเถียงกันลั่นลูกชายประธานชุมชน

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “สมาชิกฝากมา ฝากด้วยครับ เป็นเรื่องของความเห็นแก่ตัวเกิน 100% มันใช่จุดจอดรถตลอดเวลาไหม ปากทางเข้าหน้าโรงเรียนสตรี นนทบุรี ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 มีเส้นขาวแดงด้วย ทางโรงเรียนก็เอาป้ายมากั้นไม่ให้จอด ก็เลื่อนออก ทางผู้นำหมู่บ้านก็ประกาศขอความร่วมมือไม่ให้จอด ทางเจ้าอาวาสวัดก็บอกว่าห้ามจอด แต่เจ้าของรถก็ยังดื้อดึง (ได้ข่าวว่าเรียนจบมาสูงด้วย) เป็นอู่จอดรถเมล์ รถเมล์และรถผู้ปกครองก็สวนกันลำบาก เด็กๆข้ามทางม้าลายก็อันตราย จอดแบบนี้มานานจนคิดว่าเป็นที่จอดรถ Benz ส่วนตัวทั้ง 2 คัน ถ้าไม่เห็นแก่ตัวระดับสุดยอดคงทำไม่ได้ ขอบคุณมากครับ รถที่เข้ามาส่งเด็กต้องกลับรถท้ายซอยมันสวนกันกับรถเข้ามาไม่ได้ ยิ่งเป็นรถเมล์ด้วย รถเข้าออกเยอะครับ ซอยนี้ท่าน้ำคือจุดที่พบศพคุณแตงโมครับ”

8 มิ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ซ.พิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี หน้าโรงเรียนสตรีนนท์ พบรถยนต์เบนซ์ 2 คันจอดอยู่ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองนนทบุรี เข้าตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เขียนใบเสียค่าปรับแปะเอาไว้ที่ด้านหน้ารถทั้ง 2 คัน ซึ่งรถคันสีดำผิดข้อหาจอดรถซ้อนคันและคันสีน้ำเงินผิดข้อหาจอดเส้นขาว-แดง ถ้าพรุ่งนี้เจ้าของรถยังไม่ออกมาเคลื่อนย้ายรถทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะนำรถมายกรถทั้ง 2 คัน ไปเก็บที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ซึ่งในขณะเดียวกันมีชาวบ้านได้ไปตามนายอุสมาร (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นเจ้าของรถออกมาเคลื่อนย้ายรถไปจอดที่อื่น ในขณะเดียวกัน นายสุรินทร์ สะและสกุล ประธานชุมชนพิบูลสงคราม 1 ได้ลงดูพื้นที่ และได้พบนายอุสมาร ซึ่งเป็นเจ้าของรถและได้พูดคุยแต่เจ้าของรถออกลูกดื้อมีปากเสียงกัน

นายสุรินทร์ สะและสกุล ประธานชุมชนพิบูลสงคราม 1 กล่าวว่า รถจอดตรงนี้เป็นปีแล้ว ตนก็หาที่จอดให้เขาขอความร่วมมือจากเขา ย้ายไปจอดคืน 2 คืนก็กลับมาจอดที่เดิม ซึ่งก็มีป้ายบอก พี่น้องในชุมชนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเพราะรู้ว่าเป็นจุดรับส่งนักเรียนเพื่อการสัญจรจะได้สะดวก ตรงนี้ก็ขอกันไว้ ร้านค้าก็จะไม่ตั้งจะตั้งแค่เฉพาะโรงเรียนเข้าแล้วก็คือขอกันครึ่งทางระหว่างโรงเรียนกับชุมชน อยู่ร่วมกันเพื่อแสดงความมีน้ำใจแต่ที่เขาจอดไม่ได้ใช้รถแถมยังจอดที่ขาว-แดง ถึงขนาดร้องเรียนผู้ปกครองว่ารถคันนี้ใหญ่โตมากไม่ได้จอดคันเดียวแต่ซ้อน 2 คัน

"ตนก็ขอความร่วมมือบอกญาติเขา ญาติเขายังบอกว่าพูดยากที่มีปากเสียงกันนิดหน่อย เพราะไปพาดพิงถึงแม่ค้าว่าเก็บเงินเก็บทอง แต่อันนั้นก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการตนก็จัดการบริหารค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบำรุงรถ ให้ชาวบ้านมาค้าขายและเงินที่เหลือจากการบริหารจัดการก็นำไปพัฒนาชุมชน ซึ่งนำรถมาจอดตรงนี้มันมีผลกับทบกับมลภาวะทางสายตากับพี่น้องผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลาน ส่งผลกระทบต่อสังคมชุมชนโดยรวม ซึ่งไม่ได้เสียแค่เขาแต่เสียไปถึงชุมชน คณะกรรมการก็ขอแล้วขอความร่วมมือทางหอกระจายข่าวก็พูด ให้ญาติเขาไปพูด และตนก็หาที่จอดรถให้เขาจอดได้เพียงคืนเดียวก็เอารถกลับมาจอดที่เดิม คงเพราะมีต้นไม้ที่ร่ม แล้วจอดซ้อน 2 คัน ซึ่งจอดคันเดียวก็ผิดอยู่แล้ว"

ทางด้านนายทศพร สะและสกุล (ลูกชายประธานชุมชน) กล่าวว่า ตรงนี้เป็นจุดผ่อนผันเขาให้แม่ค้าจอดขายของฝั่งโรงเรียน แต่ฝั่งตรงข้ามเขาเจรจาให้แม่ค้าขึ้นไปขายของริมฟุตบาท ซึ่งเจรจากับวิสาหกิจชุมชน เขาทำให้คนได้มีที่ทำมาหากินแล้วเขาจะให้เทศกิจมาไล่แม่ค้าเพื่อให้เขาจอดรถก็คงไม่ได้ ซึ่งมันคนละเรื่องกัน แต่นี้มันเรื่องจอดรถไม่ได้เกี่ยวกับแม่ค้าซึ่งเทศกิจมาเรื่องเขาจอดรถอย่าไปคุยเรื่องอื่น ถ้าบอกว่ามันเกี่ยวข้องกันมันเกี่ยวข้องยังไงถ้าจะย้ายไปตรงนั้นก็จอดไม่ได้ ถ้าถามว่าทำไมถึงจอดไม่ได้อยากให้เขามาดูตอนเด็กเลิกเรียนลองมายืนดู

ทางด้านนายอุสมาร เจ้าของรถทั้ง 2 คัน กล่าวว่า เมื่อก่อนตนจอดตรงที่ไม่ใช่ขาว-แดง แต่ทางที่เจ้าของร้านค้า เขาเก็บผลประโยชน์ ตนไปจอดตรงหน้าร้านแม่ค้าก็ขายของไม่สะดวก เขาก็ไล่ตนให้มาจอดตรงนี้ส่วนประธานชุมชนก็เก็บเงินบอกว่าไปจ่ายให้เทศกิจ ซึ่งเก็บมาหลายปีแล้ว ตนไปถามทุกเย็นจะเก็บเงินซึ่งเขามีสิทธิอะไรมาเก็บ ตรงนี้คือที่จอดของประชาชน แต่เขาไม่ให้จอดซึ่งที่ประธานชุมชนเก็บเงินคือเก็บเงินร้านค้าทั้งหมด แต่ตนมาจอดทำให้ไม่สะดวกซึ่งรถของตนก็จอดแบบนี้นานแล้ว ตรงที่ตนจอด ขาว-แดง จอดมาหลายวันแล้วเพราะตรงนั้นเขาไล่มา ซึ่งตนจอดผิดกฎหมายได้ใบสั่งก็ต้องไปจ่ายตามหน้าที่ ตนเป็นประชาชนที่ดี ซึ่งตนทำงานศาลไม่ได้ไปดื้อรั้นอะไร ตนก็จะเอารถไปจอดที่อื่น 1 คัน จะเลื่อนรถให้เรียบร้อย แต่ก็ต้องแก้ไขเรื่องเทศกิจที่เก็บเงิน ซึ่งก็จะเคลื่อนย้ายรถในวันนี้