สาวใบ้กรีดร้องรับศพแม่สุดแค้นไอ้โหดฆ่ารัดคอ จนมุมเพราะขายไอโฟน

จากกรณี เมื่อเวลา 06.00 น. ช่วงเช้าวันนี้ (1 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุฆ่าชิงทรัพย์ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ริมถนนสายบ้านทุ่งยวน-หนองดี หมู่ 3 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช

 

ภายในบ้านพบศพของนางวันดี อายุ 74 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ จากการสอบถามลูกสาวใบ้อายุ 43 ปี ลูกสาวของผู้ตายให้ข้อมูลว่า มีคนร้ายบุก 1 คนบุกเข้ามาในบ้านก่อนจะฆ่ารัดคอแม่และชิงโทรศัพท์ไอโฟน

 

หลบหนีไป ซึ่งเมื่อวานนี้ตำรวจได้รวบตัวนายสุริยา หนึ่งในผู้ต้องสงสัยมาเค้นสอบปากคำแต่เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ตามที่เรานำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

 

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ สภ.นาบอน หลังจากที่ตำรวจได้นำตัวนายสุริยา หรือ เอก ผู้ต้องสงสัยมาเค้นสอบปากคำตลอดทั้งคืนแล้ว โดยในช่วงเช้าวันนี้ (2 มิ.ย.) ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดทุ่งสงออกหมายจับ นายสุริยา หรือ เอก อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาแล้ว ในข้อหา ทำร้ายผู้อื่นให้ถึงแก่ความตาย และลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน

 

ต่อมาด้านพลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แถลงข่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ล่าสุดตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายสุริยาแล้ว โดยจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุและแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด ตำรวจไปพบรอยเท้าเปื้อนดิน ลักษณะเป็นรอยเท้าเปล่า ไม่สวมใส่รองเท้าจากบ้านที่เกิดเหตุไปสิ้นสุดหลังบ้านนายสุริยาผู้ต้องหาที่อยู่ห่างไปประมาณ 300 เมตร

 

ต่อมาตำรวจได้แกะรอยต่อ จนพบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุได้นำโทรศัพท์มือถือ iPhone 6 ของลูกสาวใบ้ของผู้ตายไปจำนวน 1 เครื่องด้วย เมื่อเช็กสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ไปพบว่า สัญญาณโทรศัพท์ไปขึ้นอยู่บริเวณบ้านของนายสุริยาก่อนจะดับไป

 

ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปไล่กล้องวงจรปิดต่อจนพบว่า หลังจากนายสุริยาลงมือฆ่านางวันดีแล้ว ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปเสพยาบ้าต่อที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของนายสุริยาประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่า ระหว่างเสพยาบ้า นายสุริยา ได้นำโทรศัพท์ที่ลักมาจากผู้ตาย นำไปแลกยาเสพติดกับเพื่อนในวงเสพยาบ้าคนหนึ่ง

 

เนื่องจากพบว่า โทรศัพท์ไปถูกเปิดอีกครั้งบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านควนลำภูห่างไปประมาณ 17 กิโลเมตรจากบ้านนายสุริยา โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดพบเพื่อนของนายสุริยา ทราบชื่อ คือ นายไข่ดำ ขี่มอเตอร์ไซค์ใส่หมวกกันน็อคสีแดงอยู่บริเวณนั้นพอดี

 

ตำรวจจึงเรียกตัวมาเค้นสอบกระทั่งนายไข่ดำยืนยันว่า นายสุริยา มานั่งเสพยาที่บ้านจริง และได้นำโทรศัพท์มือถือแลกกับยาบ้า

 

นอกจากนี้ตำรวจยังได้วัดขนาดรอยเท้าของนายสุริยา ไปเปรียบเทียบกับรอยเท้าปริศนาที่พบหลังบ้านที่เกิดปรากฏว่า มีลักษณะใกล้เคียงกับนายสุริยาที่สุดจากผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 8 ราย และเมื่อตรวจประวัติก็พบว่า นายสุริยา เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีในคดีเสพยาเสพติดมาแล้ว ทำให้น่าเชื่อว่า นายสุริยา คือ ผู้ก่อเหตุ

 

ขณะเดียวกัน ตำรวจยังได้เก็บดีเอ็นเอ ทั้งจากเหล็กที่คาดว่าคนร้ายใช้งัดประตู , ดีเอ็นเอจากสายเสื้อชั้นในของผู้ตายที่คนร้ายใช้รัดคอ และไปส่งตรวจอย่างละเอียด เพื่อเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของนายสุริยาด้วย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ

 

ขณะเดียวกันวันนี้ทีมข่าวได้พบกับนางสาวสุจาณี ลูกสาวใบ้ของผู้ตาย ซึ่งหลังเกิดเหตุยังคงเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอพยายามจะสื่อสารเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองได้นอนหลับอยู่กับแม่ซึ่งนอนอยู่ภายในมุ้ง โดยคนร้ายได้แอบเข้ามาทางหลังบ้าน ขณะตนเองนอนหลับ ส่วนแม่คาดว่าน่าจะได้ยินเสียงคนร้ายงัดประตูและกำลังย่องไปขโมยโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ในบ้านจึงลุกจากที่นอนไปดูและเกิดการต่อสู้กันขึ้น

 

จากนั้นเมื่อคนร้ายฆ่าแม่ตายแล้ว จึงนำโทรศัพท์มือถือไอโฟนของตนเองหลบหนีไป ส่วนโทรศัพท์รุ่นเก่าอีกเครื่อวอาจจะตกอ่างน้ำขณะที่แม่กำลังต่อสู้ก็เป็นไปได้

 

จากนั้นตนเองจึงสะดุ้งตื่นและวิ่งออกมาดูก็พบว่าแม่นอนเสียชีวิตแล้ว และเห็นคนร้ายวิ่งหนีออกจากประตูหลังบ้านไกลๆ ซึ่งคนร้ายมีเพียงคนเดียว

 

ต่อมาทีมข่าวได้นำรูปของนายสุริยาให้กับลูกสาวใบ้ดู ซึ่งลูกสาวก็ได้ชี้ในรูปและพยักหน้าว่า คนนี้แหละคือคนร้าย

 

ลูกสาวใบ้พยายามบอกต่อหลังเกิดเหตุแม่เสียชีวิต ตนเองยังคงเสียใจและเมื่อคืนก็นอนไม่หลับเพราะทุกคืนจะมีแม่นอนอยู่ข้างๆ ตอนนี้ข้าวก็ยังไม่อยากกินเพราะกินไม่ลง

 

ต่อมาในช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา ครอบครัวได้เดินทางไปรับศพยายวันดี ที่ นิติเวช โรงพยาบาลนครศรีธรรมราช เพื่อกลับมาทำพิธีที่บ้าน เมื่อศพคุณยายถึงบ้าน ชาวบ้านได้ช่วยกันนำศพของคุณยายตั้งบำเพ็ญกุศลศพ พร้อมกับทำพิธีรดน้ำศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างเศร้าเสียใจ และต่างสาปแช่งผู้ก่อเหตุที่ลงมือฆ่าคุณยายวันดีอย่างโหดเหี้ยม เนื่องจากที่ผ่านมา ยายวันดีเป็นที่รักของชาวบ้านทุกคน และมีน้ำใจ นิสัยดีไม่เคยเบียดเบียนใคร

 

และเมื่อถึงคิวของลูกสาวใบ้ที่ต้องรดน้ำศพแม่ของตัวเอง เจ้าตัวได้ก้มกราบบนตัวของคุณแม่ ก่อนจะเข้าไปโอบกอดร่างอันไร้วิญญาณของคุณแม่ โดยลูกสาวใบ้พยายามพูดว่า “แม่ๆๆ” ร้องไห้และพยายามเขย่าตัวของแม่ให้ฟื้นตลอดเวลา จนญาติต้องช่วยกันนำตัวของลูกสาวใบ้นั้น เข้าไปภายในบ้าน ซึ่งเป็นภาพที่น่าเวทนามากๆ

 

ต่อมาเราได้พูดคุยกับ ลูกชายคนโต นายจรินทร์ อายุ 52 ปี บอกว่า วันนี้ได้เดินทางไปรับศพผู้เป็นแม่โดยหมอแจ้งผลชันสูตร พบว่า แม่ถูกของแข็งทุบเข้าที่หัวจนเลือดคลั่งในสมอง คอหัก และมีรอยรัดคอจนขาดอากาศหายใจ กระดูกซี่โครงหัก และใบหน้าดวงตาทั้ง 2 ข้างถูกทำตีจนเขียวช้ำ ซึ่งตนเองเห็นสภาพของแม่แล้วทำใจไม่ได้ เสียใจมากที่มารู้ว่า นายสุริยา ซึ่งถือเป็นเครือญาติจะทำกับแม่ตนเองได้โหดเหี้ยมขนาดนี้ และอยากให้เจ้าตัวยอมรับสารภาพซะ เพราะตำรวจก็มีหลักฐานไว้หมดแล้ว

 

ส่วนหลังเกิดเรื่องน้องสาวคนเล็กที่เป็นใบ้หลังจากนี้ตนเองคงต้องเอาไปดูแลเองที่ จ.กระบี่ด้วย เนื่องจาก น้องสาวที่ผ่านมาคุณแม่จะคอยดูแลอยู่ตลอด ตอนนี้คุณแม่ไม่อยู่แล้ว น้องสาวจะอยู่ตัวคนเดียวที่บ้านก็คงไม่ได้

 

ส่วนพ่อของนายสุริยา วันนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้าน หลังจากเสร็จจากงานศพยายวันดี พบว่า นายสุวรรณ พ่อของนายสุริยาผู้ต้อง เป็นเพียงคนเดียวในหมู่บ้านที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมงานศพยายวันดี ทั้งๆที่เป็นเครือญาติกัน โดยนายสุวรรณ บอกว่า ตนเองรู้สึกอับอายชาวบ้านที่ลูกชายเป็นคนที่ฆ่านางวันดี ซึ่งยายวันดี ถือเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ตนเองเลี้ยงดูมานาน ซึ่งหากรู้ว่า ลูกชายมันจะไปฆ่ายายวันดี ตนเองคงชิงฆ่าลูกชายให้ตายไปก่อนแล้ว

 

พ่อนายสุริยา ยังได้เล่าพฤติกรรมของลูกชายให้ฟังอีกว่า ที่ผ่านมาลูกชายเสพยาเสพติดหนักมาก เวลาเสพยาก็จะหลอน พูดคนเดียว ตัวสั่น เเละหากยาบ้าหมด บ้านของตนเองปลูกต้นทุเรียน ปลูกต้นละมุด เมื่อถึงฤดูออกผลผลิต ลูกชายก็จะสอยนำไปขายหมดเกลี้ยงเพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้าเสพต่อ จนตนเองแทบไม่เคยได้เหลือเก็บให้ตนเองได้นำไปขายเลย

 

ทุกวันนี้ตนเองกับเมียต้องหนีไปนอนกระท่อมหน้าบ้าน ซึ่งมีแค่ที่นอนหมอนมุ้ง ส่วนลูกชายนอนสบายอยู่ในบ้าน เพราะลูกชายไม่ยอมให้ตนเองนอนในบ้าน ตนเองจะพูดหรือสอนอะไรลูกชายก็ไม่ฟัง ทุกครั้งที่ลูกหลอนยา ตนเองก็จะเดินหนีทันที และขนาดเมียตนเองก็เคยจะถูกลูกชายทำร้ายหลายรอบแล้ว

 

ตนเองจึงหวังว่า หากตำรวจพบหลักฐานว่าลูกชายผิดจริง ก็ขอให้ตำรวจจับดำเนินคดีไปเลย ตนเองจะไม่ปกป้อง เพราะรู้จักนิสัยลูกชายดี และฝากขอโทษครอบครัวของยายวันดีด้วย จริงๆวันนี้ตนเองก็อยากไปงานศพเพื่อร่วมแสดงความเสียใจแต่ก็ไม่กล้าไปจริงๆ กลัวสายตาของชาวบ้าน

ไอโฟนลากคอไอ้โหด