หวานเจี๊ยบ "พิธา-ชลน่าน" กอดกันกลมลั่นไม่ทิ้งกัน ลุงเสรีสวน ปธ.สภา ต้องเพื่อไทย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม 7 หัวหน้าพรรคการเมือง แถลงข่าวหลังประชุมร่วมกันเป็นนัดแรก ที่พรรคประชาชาติ ว่า ที่ประชุมมีมติร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ที่ไปด้วยบุคลากรจากทุกพรรคการเมือง โดยมีนายพิธา เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่าน และมีคณะกรรมการประกอบด้วยนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล จากพรรคก้าวไกล นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล จากพรรคเพื่อไทย พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง พรรคประชาชาติ นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ พรรคไทยสร้างไทย นายวิรัตน์ วรศริน พรรคเสรีรวมไทย นายกัณวีร์ สืบแสง พรรคเป็นธรรม นายวสวรรธน์ พวงพรศรี พรรคเพื่อไทรวมพลัง และนายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ พรรคพลังสังคมใหม่

หลังแถลงผลการประชุม 8 พรรคได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนถาม โดยนายพิธา ได้ชี้แจงถึงข้อพิพาทเรื่องตำแหน่งประธานสภา ว่า วันนี้ยังไม่มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้ แต่จะให้เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล โดยจะพยายามพูดคุยให้ได้ข้อสรุปในวันและเวลาที่เหมาะสม

ขณะที่นายแพทย์ชลน่าน กล่าวเพิ่มเติมว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพื่อเป็นรัฐบาลของประชาชนให้ได้" ระหว่างนี้นายพิธา ได้หันมามองนายแพทย์ชลน่าน พูด และอมยิ้มตลอดเวลา ซึ่งเป็นจังหวะที่นายแพทย์ชลน่าน หันไปสบตานายพิธา เพื่อเป็นการยืนยันถึงความจริงใจ จากนั้นจึงได้จับมือ และนายพิธา ได้โอบไหล่นายแพทย์ชลน่าน จนนายแพทย์ชลน่าน หันมาถามสื่อมวลชนว่า" หวานมั๊ยๆ" ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะ

โดยนายพิธา กล่าวว่า ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาใหม่อีก 7 คณะ ประกอบด้วย คณะทำงานด้านค่าไฟฟ้าน้ำมันดีเซลและพลังงาน คณะทำงานด้านภัยแล้ง และ เอลนีโญ คณะทำงานด้านสามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ , คณะทำงานด้านแก้ไขรัฐธรรมนูญ , คณะทำงานด้านปัญหาสิ่งแวดล้อมและ PM 2.5 , คณะทำงานด้านเศรษฐกิจปากท้องและเอสเอ็มอี และ คณะทำงานด้านปัญหายาเสพติด

โดยคณะทำงานเหล่านี้ จะเป็นการหาทางออกร่วมกัน แก้ไขปัญหาของประเทศในประเด็นต่างๆ ก่อนจะกลั่นกรองออกมาเป็นนโยบายร่วมกัน เพื่อแถลงต่อรัฐสภา ได้ทำงานต่อไปในฐานะฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติต่อไป ขอยืนยันว่าตอนนี้การทำงานของเราเป็นไปได้ด้วยดีและเราจะสามัคคีกัน ร่วมการทำงานแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

คณะทำงานพูดคุยเบื้องต้น มีข้อตกลงชัดเจนว่าตำแหน่งประธานสภา จะให้ทั้งสองพรรคจะพูดคุยร่วมกัน ไม่ใช่โควต้าของพรรคใดพรรคหนึ่ง และจะไม่ให้เป็นปัญหาต่อการจัดตั้งรัฐบาล หรือเป็นข้อขัดแย้งแตกแยก เพราะเรามัดแน่นกันอยู่แล้ว

ขณะที่พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า คงจะมาคุยเรื่องการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลใหม่ ส่วนเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎร​ เชื่อว่าพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยจะมาคุยกัน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญ ซึ่งหากทั้ง 2 พรรคตกลงกันได้ก็เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งตำแหน่งในการเลือกประธานสภา และนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และจริยธรรมไม่มีเรื่องอายุมากหรือน้อย

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังรอส้มหล่น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่มีส้มหล่น แต่พรรคส้มควรเป็นรัฐบาล

ขณะเดียวกันพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงความเหมาะสมของตำแหน่งประธานสภา ว่าต้องเป็นคนมีประสบการณ์ ถ้าคนไม่มีประสบการณ์เป็นไม่ได้ หากเป็น ส.ส.มาแค่สมัยเดียวมันลำบาก ดังนั้น ส่วนตัวจึงมองว่าหมอชลน่าน เหมาะสมเพราะเป็น ส.ส.มา 7 สมัยแล้ว

ส่วนนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ไม่อยากให้ทุกคนดูถูกว่าประชาชนนั้น ไร้ซึ่งอำนาจ ผมอยากให้ทุกคนมองเห็นว่าความหวังของประชาชนเป็นสิ่งที่มีพลัง ถ้าเราปล่อยเรื่องนี้ สิ่งที่เราไม่ต้องการอาจจะเกิดขึ้นก็ได้ ส่วนคณะของเราจะทำงานได้มากน้อยแค่ไหน มีเครื่องชี้วัดคือประชาชนนั่นเอง เราจะอยู่ไม่ได้ถ้าเราไม่ทำตามคำมั่นสัญญาหรือ MOU ที่เราได้ให้ไว้แล้ว และผมเชื่อว่าพวกเราพร้อมจะไป เมื่อประชาชนเขาไม่ต้องการเรา เราจะไม่ยื้อทำงานจนกระทั่งมีพลังมากดดันเรา ไม่จำเป็น ในทางการเมืองนั้น มาได้ ก็ไปได้ ถ้าประชาชนต้องการ และเราพร้อมจะไป เมื่อประชาชนไม่ต้องการ หรือเห็นว่าอยู่ไปไม่เกิดประโยชน์

ภายหลังการประชุมความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาล โดยเน้นย้ำว่า วันเวลาและความหวังของประชาชนใกล้เข้ามาถึงแล้ว ถึงอยากให้พวกเราร่วมใจกันทำให้เวลาและความหวังของประชาชนมาถึงอย่างเรียบร้อย ตามเจตจำนงของการเลือกตั้ง ไม่อยากให้มีฝ่ายใดยื้อเรื่องนี้ไว้ทำให้ประชาชนผิดหวัง

จึงหวังให้กกต. รับรองผลเพื่อดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป เสียเวลาเพียงสัปดาห์เดียวหรือวันเดียวก็มีค่าสำหรับประชาชน
พร้อมยืนยันว่า ตนไม่ได้กดดัน กกต. แต่หากปล่อยให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า จะส่งผลต่อข้อกังวลและความเชื่อมั่น ไม่ใช่เพียงต่อ 8 พรรคร่วมรัฐบาลนี้เท่านั้น แต่ทั้งประเทศ จึงไม่ควรปล่อยให้ความหวังของประชาชนต้องสลายไป ควรรีบดำเนินการเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว

ก้าวไกลยังไม่เก๋าพอ?