เพื่อไทยฟาดก้าวไกลขอชัดๆ "ปธ.สภา"ส่งสัญญาณพร้อมถอนตัว

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้เผยแพร่ข้อมูลการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.2566 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เกี่ยวกับจำนวนผู้ได้รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั่วประเทศรวม 400 คน และจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคได้รับรวมทั้งสิ้น 100 คน

 โดยผลการนับคะแนนพรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต 112 คน พรรคภูมิใจไทย ได้ส.ส. 68 คน พรรคพลังประชารัฐ ได้ส.ส. 39 คน พรรคประชาชาติ ได้ส.ส. 7 คน พรรคไทยสร้างไทย ได้ส.ส. 5 คน พรรคเพื่อไทรวมพลัง ได้ส.ส. 2 คน และพรรคชาติพัฒนากล้า ได้ ส.ส. 1 คน

ในส่วนของ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์นั้น พรรคก้าวไกล ได้คะแนน 14,438,851 คะแนน ได้ ส.ส. 39 คน , พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 10,962,522 คะแนน ได้ ส.ส. 29 คน

ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา 8 พรรคการเมืองได้ลงนามเอ็มโอยูพรรคเพื่อไทยได้แจ้งความประสงค์ไปยังแกนนำพรรคก้าวไกลถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคก้าวไกลบอกว่าขอเวลาอีก 2-3 วัน เพื่อจะเอาคำตอบมาให้ และขณะนี้ก็รอพรรคก้าวไกลอยู่

และตนมองว่าด้วยความที่เสียงใกล้กันมาก โดยเฉพาะส.ส.แบบแบ่งเขต ที่พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยได้ 112 เท่ากัน เพราะฉะนั้นอยากให้มีการพูดคุยกัน เพื่อหาทางออก และเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเคยประสานงานไปแล้ว จึงอยากให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปได้ด้วยดี เพราะได้ลงนามเอ็มโอยูไปแล้ว ไม่อยากให้บางเรื่องมาเป็นอุปสรรค

ขณะเดียวกันนายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "แต่อย่าลืมว่าพรรคอันดับ 2 ที่เขามาร่วมรัฐบาล ต้องให้เขามีที่ยืนด้วยเพราะเขาก็ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนมามาก ใกล้เคียงกับพรรคก้าวไกล คุณก็เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็สนับสนุนอยู่แล้ว แต่ฝ่ายนิติบัญญัติต้องให้คนลำดับ 2 บ้าง"

ขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความว่า "เห็นข่าวแว๊บๆ ว่าจะให้ถอนตัว ถอนตัวจากช็อคมิ้นท์ลูกหลานก็ไม่ยอม แต่ถอนตัวจากการตั้งรัฐบาล ประซาชนจะไม่ยอมนะ ถอนตัวแล้วจะให้ใครเป็นรัฐบาลล่ะ"

นอกจากนี้ ยังมีอีกข้อความ "ยังไงก็ต้องไม่ถอน ช่วยกันไปจนกว่าจะตั้งรัฐบาลได้ ประกาศต่อประชาชนไปแล้ว ต้องทำตามนั้นครับ"

ส่วนท่าทีของพรรคก้าวไกล นางสาวสิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมายืนยันว่า พรรคก้าวไกลจำเป็นต้องมีตำแหน่งประธานสภา นอกเหนือจากอำนาจบริหาร ก็มีความจำเป็นต้องเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติด้วย​ เพราะมี​ 3 วาระที่ต้องผลักดันตามที่โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กของพรรค ซึ่ง ​ 4 ปีที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าตำแหน่งนี้สำคัญต่อการผลักดันกฎหมายแค่ไหน​ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่การร่างฉบับใหม่​ ถ้าจะทำให้ลุล่วงต้องมีการประชุมสภาอีกหลายครั้ง​ ต้องมีประธานที่มีเจตนารมณ์แน่วแน่ในการแก้ไข

ส่วนเรื่องนี้เป็นห่วงว่ากระแสจะทำให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาถอนตัวออกจากการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยน่าจะเล็งเห็นว่าความหวังที่พี่น้องประชาชนมอบให้ ในการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จลุล่วงน่าจะมีความสำคัญ และเรื่องนี้น่าจะเป็นการที่จะได้พูดคุยเจรจากันภายหลังต่อไป ตนมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะอยู่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะมีตำแหน่งประธานสภาฯหรือไม่ก็ตาม