ฆ่าน้องณาดาใกล้ปิดเกม ดำคนฟั่นเฟือนพ้นมลทิน ช่อง 8 เจอหลักฐานพลิกคดี

เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจตรีอนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เดินทางลงพื้นที่จุดพบศพน้องณาดา เด็กหญิงวัย 3 ขวบ โดยมี ผู้กำกับ สภ.ตันหยง และผู้กำกับสืบสวนจังหวัดนราธิวาส คอยให้ข้อมูล

ซึ่งระหว่างการลงพื้นที่จุดพบศพน้องณาดา พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้สอบถามชุดคลี่คลายคดี เรื่องผลตรวจดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุที่คนร้ายคาดว่าจะเดินผ่านมาวันเกิดเหตุ ว่า ผลเป็นอย่างไร โดยผู้กำกับสืบสวนจังหวัดนราธิวาส ได้รายงานว่า ผลดีเอ็นเอ หลักฐานใกล้จุดที่พบศพในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นตรวจไม่พบดีเอ็นเอของคนร้ายเลย เนื่องจาก หลังวันที่ 14 วันที่เด็กหาย มีฝนตกหนัก ทำให้ฝนชำระล้างหลักฐานไปเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงหลักฐานจากการตรวจกิ่งไม้ บริเวณใกล้จุดที่เจอกางเกงและแพมเพิร์สเด็ก ซึ่งผลจะออกในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.)

ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจควบคุมตัวมาสอบปากคำ 5 ราย บางส่วนได้ปล่อยกลับไปเกือบทั้งหมดแล้ว เนื่องจากดีเอ็นเอไม่ตรงกัน แต่มีอยู่ 1 คนที่ตำรวจยังคุมตัวไว้อยู่ คือ พี่ชายของนายซี ซึ่งเป็นข้อมูลใหม่ ที่ทีมข่าวเพิ่งได้มาว่า เป็นผู้ต้องสงสัยอีกคน ซึ่งนำมาสอบสวนและพบว่า ปัสสาวะสีม่วง จึงคุมตัวไว้ก่อน เพื่อสอบสวนขยายผล

ต่อมาพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้ทดสอบเดินจากจุดที่พบศพน้องณาดา ไปยังเส้นทางที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายอุ้มเด็กมา ซึ่งเป็นเส้นทางที่ 2 (เพจเส้นทางที่ 2) ที่ทีมข่าวเคยจำลองสถานการณ์ไว้

ซึ่งตำรวจได้รายงานกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ว่า มีหลักฐานสำคัญคือ กล้องวงจรปิด ช่วงเวลาที่คาดว่า น้องณาดาหาย พบชายชุดขาวปริศนาเดินผ่านหลังบ้านน้องณาดา โดยใช้เส้นทางที่ 2 และชายชุดขาว ภาพจากไกลๆ คล้ายกำลังแบกวัตถุบางอย่างสีฟ้าที่ไหล่ ซึ่งใกล้เคียงกับเสื้อน้องณาดาที่หายไปในวันนั้น

จากนั้นพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้เดินไปดูบริเวณหน้าบ้านที่น้องณาดาหายตัวไป พร้อมกับ ให้กำลังใจพ่อกับแม่น้องณาดาที่มารอรับ โดยพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้ให้ความมั่นใจกับแม่น้องณาดา ว่า ตำรวจจะจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ในเร็วๆ นี้ 

จากแนวทางการสืบสวนสอบสวน ตำรวจคุมตัว 5 บุคคลต้องสงสัย ไปสอบปากคำ โดย 1 ในนั้นคือนายดำ

ย้อนกลับไปวันที่น้องณาดาหายตัวไป 14พ.ค.66 กล้องวงจรปิดร้านค้า บันทึกภาพของนายดำ เดินผ่านข้ามถนนจากฝั่งตลาดนัดเดินเข้ามาที่ร้านค้าข้างร้านข้าวเกรียบที่น้องณาดาอยู่ เวลาประมาณ 16.16 น. ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พ่อของน้องณาดาเพิ่งจะรู้ว่าลูกสาวได้หายตัวไปจากร้าน ซึ่งจะเห็นว่า นายดำ ได้เดินสวนกับพ่อน้องณาดาที่กำลังเดินหาลูกสาว

โดยเบื้องต้นจากการประเมินช่วงเวลาที่น้องณาดาหายตัวไปคือช่วง 16.13-16.16 น.

ก่อนที่นายดำจะเดินออกมาจากฝั่งร้านค้าใกล้ร้านข้าวเกรียบที่น้องณาดาหายตัวไป ในเวลา 16.18 น. ใช้เวลาเพียง 1 นาที ก่อนที่นายดำจะเดินข้ามถนนกลับไป

ทีมข่าวได้สอบถามนายดำ (นามสมมุติ) เจ้ายอมรับว่า ตนเองนั้นวันที่น้องณาดาหาย ได้เดินข้ามถนนไปฝั่งบ้านของน้องณาดาจริง แต่ข้ามไปเพราะต้องจะไปแลกเงินทอน และซื้อยาเส้นจำนวน 1 ซองเท่านั้น เนื่องจาก ตนเองช่วยพี่สาวขายของที่ตลาดนัดฝั่งตรงข้าม ซึ่งหลังจากแลกเงินเสร็จตนเองก็ได้ข้ามถนนกลับไปยังตลาดนัดเพื่อช่วยพี่สาวขายของต่อทันที

ยืนยันว่า ขณะที่ตนเองข้ามถนนไป ตนเองไม่เห็นคนร้าย และไม่เห็นน้องณาดาด้วย เพราะไม่ทันสังเกต

ส่วนที่ตำรวจช่วงแรกสงสัยนายดำเพราะมีชาวบ้านให้ข้อมูลว่า นายดำป่วยจิตเวชอ่อนๆ อาจจะลักเด็กไปกระทำชำเรา นายดำ ยืนยันกับทีมข่าว ตนเองไม่เคยคิดจะไปทำร้ายเด็กหรือใคร หรือ รู้จักน้องณาดาด้วยซ้ำ และไม่มีทางทำแบบนั้นได้ และที่ผ่านมา ตนเองก็ไม่เคยเดินไปพื้นที่หลังบ้านหรือบริเวณจุดพบศพน้องณาดาเลยสักครั้ง จะเดินผ่านเพียงหน้าบ้านของน้องณาดาที่อยู่ติดถนนเท่านั้น ซึ่งตนเองได้ยืนยันความบริสุทธิ์กับตำรวจไปแล้ว นอกจากนี้ นายดำ ยังโชว์มือและแขนให้ดูว่าทีมข่าวดูว่า ตัวเองไม่มีร่องรอยการบาดเจ็บ หรือรอยข่วนของเด็กอีกด้วย

ล่าสุดเมื่อช่วง 20.30 น. ที่ผ่านมาพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เปิดเผยหลังจากประชุมติดตามคดี โดยยอมรับว่า อุปสรรค คือ เรื่องฝนที่ตกลงมาตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. วันที่เด็กหาย ซึ่งฝนอาจจะชำระล้างหลักฐานสำคัญ ดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุไปเกือบหมด แต่ตนเองยังมั่นใจว่า คนร้ายทุกคดีย่อมทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้อยู่แล้ว ซึ่งตำรวจได้พยายามเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ส่วนอื่นมาประกอบด้วย

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เชื่อมั่นว่า บุคคลที่ก่อเหตุเป็นบุคคลในละแวกพื้นที่เกิดเหตุแน่นอน และก่อเหตุเพียงคนเดียว เนื่องจากเป็นเด็กเล็กหากไม่สนิทเด็กจะไม่ไปด้วยและส่งเสียงร้องอยู่แล้ว และตามหลักเด็กจะต้องไปกับคนรู้จัก โดยคดีนี้ตนเองยืนยันว่าจะติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้เนื่องจากเป็นคดีที่โหดเหี้ยมและโหดร้ายกับเด็กมาก

ล่าสุดตำรวจชุดคลี่คลายคดี ได้ตามชายชุดขาวจนพบแล้ว โดยนำชายชุดขาวมาเค้นสอบ แต่เจ้าตัวยังให้การปฎิเสธ และให้การวกวน ซึ่งมีข้อมูลคร่าวๆว่า ชายคนนี้อายุประมาณ 44 ปี เป็นคนในพื้นที่ ตกงาน ไม่มีงาน ซึ่งตำรวจกำลังหาหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงว่าใช่ผู้ก่อเหตุหรือไม่

คนฟั่นเฟือนรอด!