ปชป. ฉุนก้าวไกลแซะหนูกับแมลงสาบ ระวังตั้งรัฐบาลล้ม รับถึงแพ้ขอแก้ตัว

วันที่ 16 พ.ค.2566 กรณีตำรวจพบคนขับรถเก๋ง BMW บริเวณถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. โดยวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายได้ 66 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ปรากฏว่า คนขับคือ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 27 พรรคก้าวไกล

วันนี้ น.ส.ณธีภัสร์ ได้แถลงขอโทษ โดยมาพร้อมกับนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยเจ้าตัวร้องไห้ รู้สึกเสียใจที่ทำให้ประชาชนผิดหวัง พร้อมขอลาออกจากการเป็นว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 27 ของพรรค โดยเป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างแกนนำพรรค แต่ยังไม่ได้มีโอกาสเจอกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

พร้อมชี้แจงว่าตอนที่จอดรถเพราะถูกเรียกตรวจ ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด ยอมรับว่ามีการต่อสายหาเพื่อนจริง แต่ให้เพื่อนมาอยู่เป็นเพื่อน และพร้อมเป่าแอลกอฮอล์ ไม่มีเจตนาปฏิเสธกระบวนการตรวจวัด

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตัดสินใจลาออก และยอมรับว่าเป็นการกระทำผิดส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค ซึ่งจากการที่ไม่ได้เข้าไปเป็น ส.ส. ก็จะทำให้ตัวเองไม่ได้เข้าไปโหวตกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ผลักดันตลอดมา

ขณะที่นายพิจารณ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุก็ได้ประสานไปยังผู้กำกับฯ ว่าให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่เลือกปฏิบัติแม้จะเป็นนักการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม

ล่าสุดศาลอาญามีนบุรีมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง รับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 4,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี และให้คุมประพฤติจำเลย โดยรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 4 เดือน ภายในเวลา 1 ปี กับให้จำเลยทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควร เป็นเวลา 12 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถของจำเลย เป็นเวลา 6 เดือน หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

และจากการลาออกของ น.ส.ณธีภัสร์ ซึ่งเดิมพรรคก้าวไกลได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด 39 ราย ทำให้มีการขยับลำดับขึ้นมา โดยนายสุเทพ อู่อ้น ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 40 จะได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วันนี้มีประชุม คณะรัฐมนตรี คำถามแรกที่นักข่าวถามคือ "นายกฯ เป็นไงบ้างครับ" พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า "ก็เป็นนายกฯ อยู่ไง" ทำให้หลายคนตีความว่า หรือหลังจากนี้ท่านจะกลับมา ซึ่งหลังจากประชุม ครม.เสร็จ ได้เชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าไปคุยกัน แต่สุดท้ายเป็นเพียงการถามกันสั้นๆ ว่า "ไปพักเหรอ ไปพักหรือกลับบ้าน ไปพักผ่อนเนอะ ไว้คุยกัน" เพียงเท่านั้น ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะเดินออกมาขึ้นรถ

 

ขณะที่ สูตรการจัดตั้งรัฐบาล "ก้าวไกล" โดยร่วมกับ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย และพรรคเป็นธรรม รวม 310 เสียงนั้น

นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องที่หลายคนเรียกร้องให้พรรคเสียงข้างน้อยหรือ ส.ว. ออกมาโหวตสนับสนุน โดยระบุว่า ผมคิดว่าอย่าไปก้าวก่ายคนอื่นเขาเลย แต่ละพรรคคิดอย่างไรก็คิดเอา และมีมติของเขาเอง ดังนั้นอย่าไปก้าวก่ายหรือรุกล้ำ ไม่ควรให้คนอื่นเขาคิดเหมือนตัวเอง แต่ละพรรคเขาคิดเองได้ และเขามีสติปัญญาที่จะคิดเองได้

ทีมข่าวได้สัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์ในรายการลุยชนข่าว นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยอมรับว่า พรรคมีจำนวน ส.ส. ลดลงน้อยมาก จำเป็นจะต้องทบทวนและฟื้นฟูพรรค เพื่อเดินหน้าต่อไป ส่วนใครที่เหมาะจะมาเป็นหัวหน้าพรรคในวันนี้ ส่วนตัวคิดว่าคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สำหรับประเด็นเรื่องการให้พรรคประชาธิปัตย์โหวตสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ นั้น ต้องให้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เป็นผู้กำหนดทิศทาง แต่อย่าโยนว่าคนที่จะมาหาทางออกให้กับประเทศคือพรรคประชาธิปัตย์

และขอเตือนไปยังนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนายรังสิมันต์ โรม ที่ไปพูดในลักษณะว่า พรรคภูมิใจไทยไม่จำเป็น หนูให้ไปอยู่กับแมลงสาบ ซึ่งดูเป็นการเยาะเย้ยถากถางกัน ดังนั้นถ้าจะหาเพื่อนปิดสวิตซ์ ส.ว. ก็ควรจะพูดในหลักการขอให้มาช่วยกัน เพื่อให้แต่ละพรรคไปลงมติกัน ซึ่งสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดึงเราไปแล้วเราจะไม่โหวตหรือต้องโหวต แต่เป็นในแง่ของการแสดงจุดยืนทางการเมืองมากกว่า ซึ่งการโหวตของสมาชิกพรรคจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ระวังปากดี อดเป็นรัฐบาล!