"เศรษฐา" ย้ำ "เพื่อไทย" ไม่เกี่ยว "ทักษิณ" กลับบ้านช่วงรบ."พล.อ.ประยุทธ์" รักษาการ ไม่หวั่นกระแส "ก้าวไกล"มาแรง มั่นใจกวาด ส.ส.เชียงใหม่ ยกจังหวัด ย้อน "อนุทิน" ยันเข้าใจการเมืองดี อำนาจอยู่ที่ประชาชน

“เศรษฐา” ย้ำ “เพื่อไทย” ไม่เกี่ยว “ทักษิณ” กลับบ้านช่วงรบ.”พล.อ.ประยุทธ์” รักษาการ ไม่หวั่นกระแส “ก้าวไกล”มาแรง มั่นใจกวาด ส.ส.เชียงใหม่ ยกจังหวัด ย้อน “อนุทิน” ยันเข้าใจการเมืองดี อำนาจอยู่ที่ประชาชน

 

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ระหว่างกานลงพื้นที่หาเสียงในจังหวัดเชียงใหม่ ถึงการแข่งขันทางการเมือง เนื่องจากเชียงใหม่เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีการแข่งขันสูง โดยระบุว่ามีการแข่งขันสูงทุกพื้นที่ แต่พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจ และเชียงใหม่ถือเป็นโฮมทาวน์ (บ้านเกิด)ของพรรค เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ที่นั่ง ส.ส. ยกจังหวัด

 

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า พรรคก้าวไกล มีกระแสแรงในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเมืองเชียงใหม่นั้น นายเศรษฐาระบุว่าคงไม่ใช่แค่ก้าวไกล คงมีหลายพรรคการเมือง ซึ่งวันนี้เพื่อไทยก็มาเต็มทีม สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่พรรคมองว่าสำคัญมากที่สุดจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ

 

ส่วนกังวลกับกระแสของก้าวไกลในขณะนี้หรือไม่ นั้น นายเศรษฐา ตอบว่า ไม่ และยังมั่นใจว่าเพื่อไทยยังได้เป็นพรรคคะแนนเสียงส่วนมาก

 

นายเศรษฐายังกล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความประกาศตัดสินใจกลับมาเลี้ยงหลาน ภายในเดือนกรกฎาคม ซึ่งอาจส่งผลต่อคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยว่าในมุมของคนเป็นพ่อก็เห็นใจและนายทักษิณก็บอกไว้ชัดว่าจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

 

“ท่านเป็นคุณพ่อ คุณตา คุณปู่ ก็เห็นใจเพราะ17 ปี ไม่ได้กลับบ้านเลย ซึ่งท่านพูดชัดเจนว่าจะกลับเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย และสอง ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เหนือสิ่งอื่นใด มีการระบุว่า กลับมาในช่วงรัฐบาลปัจจุบันยังรักษาการอยู่ ซึ่งประชาชนต้องตัดสินเอง ผมพูดในฐานะแคนดิเดตนายกฯ โดยไม่ได้มีการประเมินว่าการประกาศของนายทักษิณจะส่งผลบวกหรือผลลบต่อพรรค และส่วนตัวไม่มีความเห็นว่าจะช่วยเรียกคะแนนหรือไม่”

 

ส่วนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวพาดพิงกรณี นายเศรษฐาจะไม่ให้กระทรวงคมนาคมกับพรรคอื่นนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่าเรื่องนี้ตนขอความเป็นธรรม  หลายพรรคก็พูดว่าถ้าเป็นรัฐบาลจะเอากระทรวงอะไร วันนั้นคุยกับสหกรณ์แท็กซี่ ซึ่งพบว่ามีปัญหาหมักหมมมาก ที่เกิดจากรัฐบาลปัจจุบันเยอะ กระทรวงคมนาคมเป็นกระทรวงหลัก เป็นหนึ่งในกระทรวงเศรษฐกิจ ไม่ได้ประกาศจะยึด แต่ถ้าเกิดเป็นรัฐบาล ก็จะไม่ยกกระทรวงนี้ให้คนอื่น ไม่ได้ไม่ให้เกียรติพี่น้องประชาชน แน่นอนการเลือกตั้งต้องมาก่อน และรอประกาศผลจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วย

 

 “ผมมีความเข้าใจในการเมืองดีว่า จริง ๆ แล้วพื้นฐานของการเล่นการเมือง พื้นฐานของการทำงานการเมือง เราเข้ามาทำเพื่อพี่น้องประชาชน คนที่มีอำนาจจริงคือพี่น้องประชาชน ส่วนที่นายอนุทินพูดก็คงถูก เพราะผมไม่มีอำนาจ เพราะอำนาจที่แท้จริงก็คือประชาชน”