"พิธา" แจงหุ้น ITV เป็นกองมรดก ด้าน "นิกม์" เปรียบเทียบตนเองได้หุ้นมรดกตัวเดียวกัน แต่พรรคภูมิใจไทยแนะให้จัดการให้เรียบร้อยก่อนลงสมัครแล้ว

วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 จากกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เตรียมยื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อมวลชน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) กรณีที่พิธาถือหุ้น ITV มีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "ต่อกรณีหุ้น ITV ผมไม่มีความกังวลเพราะ ไม่ใช่หุ้นของผม เป็นของกองมรดก ผมเพียงมีฐานะ ผจก.มรดก และได้ปรึกษาและแจ้งต่อ ปปช. ไปนานแล้ว ฝ่ายทีมกฎหมายพร้อมเตรียมการชี้แจงอยู่แล้วเมื่อ กกต.ส่งคำร้องมา เรื่องนี้อาจมีเจตนาสกัด #พรรคก้าวไกล ซึ่งไม่ต้องการเห็นการ #ทลายทุนผูกขาด ในประเทศนี้"

ด้านนายนิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 17 คลองสามวา พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ชี้แจงเรื่องหุ้น ITV ว่าเป็นเพียงผู้จัดการมรดกนั้น จะพบว่า ในเอกสารนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ เสียชีวิตในปี 2549 (พิธีศพระหว่างวันที่ 18-24 กันยายน 2549) มีทายาทผู้มีสิทธิ์รับมรดก 3 คน คือ นางลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ โดยนายพิธา อ้างว่าเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งตามกฎหมายทายาทเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดกจากผู้เสียชีวิต ดังนั้น หุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น จะต้องตกเป็นของทายาทในสัดส่วนเท่า ๆ กัน ย่อมหมายความว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังคงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 14,000 หุ้น

“ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า นายพิธา จะอ้างว่ามิใช่เจ้าของหุ้นไม่ได้ เพราะไม่ปรากฏหลักฐานว่า นายพิธา ได้สละมรดกแต่อย่างใด อีกทั้ง การสละมรดกจำต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อเจ้าพนักงาน หรือสัญญาประนีประนอม และในประการสำคัญ หากนายพิธา สละมรดกจริง ย่อมไม่มีสิทธิ์ยื่นคำร้องเป็นผู้จัดการมรดกได้ ที่สำคัญถ้าหุ้นนี้เป็นของกองมรดกก็ต้องระบุใน บอจ.5 ว่าผู้ถือหุ้นคือนายพิธา ในฐานะผู้จัดการมรดก”

นายนิกม์ กล่าวว่า อย่างในกรณีของตนก็ได้รับมรดกเป็นหุ้นของ ITV เช่นเดียวกัน และตั้งแต่กรณีเรื่องหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เกิดขึ้น ผมก็ระมัดระวังตัว ในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ ผมได้ติดต่อโบรกเกอร์ ติดต่อ TSD เสียค่าธรรมเนียม ออกใบหุ้น เพื่อโอนออกจากตัวเองไปแล้ว

“เมื่อก่อนผมอยู่พรรคอนาคตใหม่ เคยนำเรื่องหุ้น ITV ไปปรึกษาทีมกฎหมายของพรรค เขาบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่ต้องไปทำอะไร ดีนะคราวนั้นผมได้ที่ 2 ไม่ได้เป็น ส.ส. ถ้าได้เป็นคงโดนแบบพี่เอก (นายธนาธร) ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ในครั้งนี้ผมย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทย เพราะเรื่องที่จะมีการแก้ไขหรือยกเลิก มาตรา 112 ซึ่งผมไม่เอาด้วย และผมเชื่อมั่นในตัวหมอหนูในเรื่องสาธารณสุข ที่ผมเคยร่วมงานมูลนิธิ ด้วย เชื่อมั่นว่าเป็นพรรคที่พูดแล้วทำ เขาแนะนำให้จัดการเรื่องหุ้น ITV ให้เรียบร้อย” นายนิกม์ กล่าว