ชูวิทย์ เชื่อกกต.จัดการเลือกตั้งล่วงหน้าผิดพลาด เอื้อซื้อเสียงโดยตั้งใจ ชี้การเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมาควรเป็นโมฆะ เพราะผิดเจตนารมณ์ของประชาชน

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่พบความผิดปกติในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่จังหวัดอำนาจเจริญ ที่พบมีหัวคะแนนนำผู้สูงอายุมาลงคะแนนเลือกตั้งจำนวนมาก

 

นายชูวิทย์ ยังตั้งข้อสังเกตว่าอีกว่าจังหวัดอำนาจเจริญแบ่งเขตการเลือกตั้งเพียง 2 เขต แต่วันเลือกตั้งล่วงหน้า กลับมีผู้สูงอายุขอลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกหน่วยและไปเบือกในเขตใกล้เคียงทั้งที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน คือ คนที่อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ขอไปลงคะแนนเลือกตั้งในเขตที่ 2 รวมแล้ว 7,259 คน (เขต 1 จำนวน 4,735 คน // เขต2 จำนวน 2,554 คน) ซึ่งนายชูวิทย์ มองว่าการที่ผู้สูงอายุขอไปเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต โดยจะอ้างว่าติดธุระ นั้นมันแปลก // นอกจากนั้นยังมีข้อมูลว่าผู้สมัครในจังหวัดอำนาจเจริญคนหนึ่ง ที่เคยเป็นอดีตกกต.อำนาจเจริญ เป็นคนออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว แทนที่ กกต.จังหวัดจะเป็นคนออกมาชี้แจง ซึ่งมันมีพิรุธว่า ทำไมผู้ลงสมัครถึงรู้และเข้าถึงข้อมูลผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในพื้นที่เป็นอย่างดี

 

อีกประเด็นที่ นายชูวิทย์ ตั้งข้อสังเกต ว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้ส่อแววพิรุธ คือ การทำงานของ กกต.ที่ทำให้ประชาชนสับสนเรื่องบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และ แบบบัญชีรายชื่อ ที่คนละเลขกัน // อีกทั้งซองที่ใส่บัตรเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยยังเขียนเขตเลือกตั้งผิดอีกจำนวนมาก ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อคะแนนที่ประชาชนเลือก ต่างจากการเลือกตั้งในอดีตที่ให้หมายเลขพรรคการเมือง และส.ส.เขต เป็นเลขเดียวกัน ทำให้ประชาชนไม่สับสนในการลงคะแนน

 

นายชูวิทย์ ยังเสนอให้ยกเลิกการเลือกตั้งล่วงหน้าในครั้งนี้ เพราะพบการทุจริตจำนวนมากตั้งแต่การออกแบบบัตรเลือกตั้ง จนถึงการลงคะแนนวันเลือกตั้งล่วงหน้า เป็นเพราะกกต.ไม่ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความยุติธรรม แต่กลับมาแถลงว่าการลงคะแนนล่วงหน้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมเรียกร้องให้กกต.ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

 

การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา เห็นว่าเป็นคะแนนที่ไม่โปร่งใส ทั้งที่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็เคยมีเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความไม่รัดกุมของเจ้าหน้าที่ประจำเขตมาแล้ว แต่ก็กลับไม่แก้ไข โดยเฉพาะการเขียนเขตเลือกตั้งบนหน้าซอง แทนที่จะประทับตราเลขเขตให้ชัดเจนเพื่อป้องกันความผิดพลาด รวมถึงการขนย้าย การเก็บรักษาบัตร ก็ไม่เหมาะสมกับงบประมาณจัดการเลือกตั้ง จำนวน 6,000 ล้านบาท

 

นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้ไม่โปร่งใส มีความผิดพลาดที่เกิดจากความตั้งใจ และควรเป็นโมฆะ เพราะผิดเจตนารมณ์ของผู้ใช้สิทธิ์ และขอให้กกต.พิจารณาตัวเอง ครั้นจะให้ กกต.ลาออก คงเป็นไปได้ยากในตอนนี้ แต่ควรจะออกมายอมรับความผิดพลาดแบบลูกผู้ชาย ไม่ใช่ออกมาบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งที่ไม่เคยมีการตรวจสอบเลย // และนายชูวิทย์ ยังเชื่อว่า หากมีการนับผลคะแนนเลือกตั้งในครั้งนี้ จะหักปากกาเซียนของผลโพลหลายสำนัก เพราะด้วยความผิดพลาด และความข้องสงสัยจำนวนมากที่เกิดขึ้น ส่วนพรรคที่ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ก็เห็นว่าจะเป็นการได้คะแนนที่ไม่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน