นับเป็นความสูญเสียผู้เสียสละช่วยสังคม! กู้ภัยอยุธยาช่วยปั๊มหัวใจ ช่วยเหลือผู้ป่วย แต่สุดท้ายล้มฟุบและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เมื่อเช้ามืดวันนี้ (20 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ที่กำลังปฏิบัติหน้า ช่วยเหลือผู้ป่วยอยู่ ได้หมดสติแล้วล้มลง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชธานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงเดินทางมาตรวจสอบบริเวณภายในห้องเก็บศพพบร่างไร้วิญญาณ นายสมศักดิ์ อายุ 45 ปี สวมใส่เสื้อชุดปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยา พบมีเลือดไหลออกบริเวณจมูก โดยมีเพื่อน ๆ สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ที่ทราบข่าวต่างมาแสดงความเสียใจ

คุณมน นฤพล อาจหาญ ทีมข่าวช่อง8 ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ กู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ คือ นายสมเจต เพ็ชรสีม่วง กู้ภัยมูลนิธิอยุธยารวมใจ เล่าว่าตัวเองได้รับแจ้งว่ามีพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงงานแห่งหนึ่งย่านโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นลมหมดสติช่วงเวลา 03:00 น. (วันที่20เมษายน) จึงรีบไปดูก็พบพนักงานรักษาความปลอดภัยหมดสติจึงเร่งช่วยทำ CPR หรือปั๊มหัวใจ แต่เนื่องจากอาการผู้ป่วยค่อนข้างสาหัส จึงวิทยุเรียกทีมเสริม ระหว่างนั้นจึงมีเพื่อนกู้ภัย คือนายสมศักดิ์ สีเสือ อายุ 45 ปี (กู้ภัยที่ตาย) มาช่วยทำ CPR ให้กับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่หมดสติ

ซึ่งนายสมเจตน์ ก็ได้ถ่ายภาพขณะที่นายสมศักดิ์เพื่อนกู้ภัยกำลังปั๊มหัวใจอยู่ เพื่อเก็บเอาไว้รายงานเหตุ แต่สุดท้ายพนักงานรักษาความปลอดภัยดังกล่าวก็เสียชีวิต เมื่อรถพยาบาลมารับร่างของพนักงานรักษาความปลอดภัยดังกล่าวได้ไม่นาน ปรากฏว่า นายสมศักดิ์ก็มีอาการหน้ามืดก่อนทรุดลงกับพื้นแล้วนอนราบไป และหมดสติ ทำให้นายสมเจตน์ตกใจ และพยายามช่วยยื้อชีวิตแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

นายสมเจตน์ในฐานะกู้ภัยด้วยกัน จึงรู้สึกตกใจว่าในขณะที่ช่วยปั๊มหัวใจพนักงานรักษาความปลอดภัยเสียชีวิตไป แต่เพื่อนกู้ภัยที่มาช่วยปั๊มหัวใจกับเสียชีวิตตามไปด้วย

หลังเกิดเหตุ ได้กลับมาย้อนดูภาพนิ่งที่ถ่ายเอาไว้ในขณะที่นายสมศักดิ์กำลังปฏิบัติหน้าที่ปั๊มหัวใจพนักงานรักษาความปลอดภัย พบว่ารูปบริเวณใบหน้าของนายสมศักดิ์เบลอมองไม่เห็นว่าเป็นใบหน้าคน ที่แปลกคือคนที่นายสมศักดิ์ปั๊มหัวใจคือพนักงานรักษาความปลอดภัยกับคนรอบข้างกลับมีใบหน้าที่ค่อนข้างชัดเจน ภาพถ่ายดังกล่าวจึงเหมือนเป็นลางบอกเหตุหรือไม่ ว่านายสมศักดิ์จะเสียชีวิตตามมาภายหลัง เรียกว่าเป็นเรื่องของอาถรรพ์ นายสมเจตน์เองจึงบอกกับญาติของพนักงานรักษาความปลอดภัยหรือว่าลุงแกไม่ได้เสียชีวิตตายไปคนเดียวแต่แกนำเพื่อนของผมไปด้วย

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวลุยชนข่าว ไล่ไทม์ไลน์การเกิดเหตุตั้งแต่ได้รับแจ้งเหตุ จนวาระสุดท้ายของชีวิต ว่าพนักงานรักษาความปลอดภัยหมดสติ ตอนประมาณตี 2.45 น ตี3.05 กู้ภัยที่เสียชีวิตมาถึง ปั้มหัวใจจนถึงตี3.30 จนตี3.45 กู้ภัยที่ปั้มหัวใจเสียชีวิต

ส่วนร่างของพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เสียชีวิตถูกนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางญาติก็ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวของกู้ภัยที่เสียชีวิตตามไปด้วย

ต่อมาทีมข่าวของเรา ลงพื้นที่ไปที่หน่วยกู้ภัยที่นายสมศักดิ์อยู่ประจำจุด เจอกับเพื่อนๆทีมกู้ภัย นายปัญญา ชูมะณี กู้ภัยสมาคมอยุธยารวมใจ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย บอกว่าทางเพื่อนกู้ภัยเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก แต่ก็แอบคิดไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเกี่ยวกับเรื่องอาถรรพ์หรือเรื่องลี้ลับหรือไม่

เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานก็เพิ่งเสียเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปถึง 3 คนในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยรายแรกเสียชีวิตจากการที่นั่งใกล้เพื่อนแล้วเพื่อนนำปืนมาเล่นจนถูกยิงเสียชีวิต

ส่วนอีก 2 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ ชุดประดาน้ำทีมเจ้าพระยาของหน่วยกู้ภัยอยุธยา ซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่งม ใบพัดเรือ ก่อนที่ทั้งสองคนจะถูกดูดเข้าไปในท่อสูบน้ำจนทำให้เสียชีวิตทั้งคู่

ยิ่งพอมาเจอเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้หลังช่วยปั๊มหัวใจก็เสียชีวิตต่อทันทีเลยแอบคิดไม่ได้ว่าเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับหรือไม่ แต่อีกส่วนนึงก็เชื่อว่าอาจจะเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของนายสมศักดิ์ผู้ตายเพราะแกป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงและพักผ่อนน้อย

ด้านญาติของนายสมศักดิ์กู้ภัยที่เสียชีวิตก็ได้เดินทางมาจากจังหวัดพิษณุโลก เพื่อมารับร่างของนายสมศักดิ์ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างพากันโศกเศร้า

โดยเฉพาะ นายยุทธ สีเสือ อายุ 72 ปี พ่อของนายสมศักดิ์ที่ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา เพราะไม่นึกว่าลูกชายตัวเองจะมาจบชีวิตแบบนี้ พ่อของนายสมศักดิ์ยังบอกอีกว่าลูกชายเป็นคนดีไม่กินเหล้าเมายาไม่สูบบุหรี่ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้

ส่วนนางสาว สุนทร บรรพแก้ว อายุ 52 พี่สาว ของนายสมศักดิ์บอกว่าแม่น้องชายจะจบชีวิตกะทันหันแบบนี้ แต่ลึกๆแม้ว่าจะเสียใจแต่ก็ภูมิใจที่น้องชายได้ทำหน้าที่ เพื่อสังคมจนวินาทีสุดท้ายก่อนเสียชีวิต

ขณะที่อดีตภรรยา ของนายสมศักดิ์นำลูกชายวัย 15 ปี และวัย 13 ปี ของนายสมศักดิ์มารับศพและเปิดเผยสั้นๆ กับทีมข่าวของเราบอกว่า โดยปกติแล้วอดีตสามีคือนายสมศักดิ์ เป็นคนรักอาชีพกู้ภัยมาก และทำมาตั้งแต่สมัยที่คบกันได้ครั้งแรก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยส่วนตัวอาจจะเกี่ยวข้องกับอาการป่วย เพราะว่านายสมศักดิ์ป่วยเป็นโรคเก๊าและโรคความดันตั้งแต่สมัยยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ด้วย

ขณะที่เพื่อนกู้ภัยรวมถึงเพื่อนของนายสมศักดิ์ต่างโพสต์รูปแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนายสมศักดิ์และร่วมเชิดชูในหน้าที่อาชีพกู้ภัยที่ได้ทำจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนเสียชีวิต