หนุ่มคลั่งลั่นไกใส่ชาวบ้านมารับซื้อของเก่าเสียชีวิตที่ จ.ชัยภูมิ ตำรวจปิดล้อมเจรจาถูกยิงเจ็บ 1 นาย ผ่านไปกว่า 6 ชั่วโมง เดินถือพระยอมมอบตัว

วันที่ 16 เมษายน 2566 เวลา 11.00 น. พ.ต.ท.ทรัพย์สยาม ชัยทุมพงษ์ สวญ.สภ.โนนเหม่า อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ รับแจ้งจากทาง สภ.โนนเหม่า ว่ามีเหตุยิงกันเสียชีวิตภายในบ้านพัก หมู่ที่ 3 ตำบลนางแดด อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ จึงไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน

ขณะกำลังเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ถูกนายสุบิน อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุยิงเพื่อนบ้านเสียชีวิต ซุ่มยิง พ.ต.ต.ภูวนาถ รุผล สว.สส.สภ.โนนเหม่า ที่เข้าระงับเหตุ ถูกบริเวณแขนขวา 1 นัด เจ้าหน้าที่ที่เข้าไประงับเหตุที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอหนองบัวแดง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงประสานชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชัยภูมิเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม และวางแผนเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุซึ่งยังอยู่ในอาการคุ้มคลั่ง พร้อมทั้งปิดล้อมบ้านที่เกิดเหตุไว้

ส่วนบ้านที่มีผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน สภาพศพถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด.22 เข้าบริเวณชายโครงด้านขวา ตัดขั้วหัวใจ ทราบต่อมา ชื่อ นายวีระชัย เดชโนนสังข์ อายุ 49 ปี

จากการสอบถามชาวบ้านซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่เกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้มารับซื้อของเก่ากับตนเอง แต่ยังไม่ทันได้ซื้อ ผู้ก่อเหตุได้เกิดคลุ้มคลั่งถือปืนเข้ามายิงผู้เสียชีวิต โดยบอกกับผู้เสียชีวิตว่า มึงอยากตายติ ก่อนที่จะลั่นไกยิงผู้เสียชีวิต 1 นัด แล้วหลบหนีเข้าไปในบ้าน ตนจึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เข้ามาสมทบกับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจโนนเหม่า จึงวางแผนที่จะเข้าควบคุมผู้ก่อเหตุที่อยู่ในความคลุ้มคลั่ง หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้ามาสบทบในเบื้องต้นได้ให้พี่ชายและแม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเกลี้ยกล่อม แต่ไม่เป็นผล หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กดดันผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 6 ชั่วโมง นายสุบิน หรือโป่ง ได้เดินถือพระพุทธรูปลงมาจากบ้านเพื่อเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากการสอบถาม บอกว่า ผู้เสียชีวิตได้มากดดันตนเองมากเกินไป ส่วนกดดันเรื่องอะไรนั้นไม่ยอมตอบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปยัง สภ.โนนเหม่า แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และข้อหาต่อสู้ขัดขวางและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ก่อนคุมตัวฝากขังต่อไป