ประกาศสงคราม ! "ทนายตั้ม" แฉยับ "ชูวิทย์" อ้างทนไม่ได้ "โรบินฮู้ดจอมปลอม" แจงยิบไถมากกว่า 20 ล้าน ไม่รวมอีก 50 ล้านจากเงินดิจิทัล ถามกลับปม "แทนไท" ยันเปิดหน้าแฉไม่เกี่ยวกับจะลงเล่นการเมือง

จากกรณี ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ภาพถุงใส่เงินปึกใหญ่ 2 ถุง พร้อมระบุว่า "แฉไป ไถไป" และยังมาคอมเมนต์ต่ออีกว่า "คนที่คุณเห็นอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด หมดศรัทธา" "ไถสีเทามา 50 ล้าน บริจาคเอาหน้าที่ละ 3 ล้าน สร้างภาพกลับตัวกลับใจ ผมไม่อยากสวนกระแสนะครับ ผมก็เป็นคนนีงที่ชื่นชมมาตลอด แต่พอรู้ความจริงแล้ว มันหมดรักเลยจริงๆ ผมไม่อยากให้มีอาชีพแบบนี้ สร้างประเด็นข่าว ตีๆแล้วไถ ใครยอมจ่ายก็ไม่พูดถึง เราจะยกย่องคนแบบนี้เป็นฮีโร่จริงหรือครับ" "หลังจากเห็นโพสนี้ ตอนนี้พี่ชูวิทย์ก็รับแล้วนะครับ ว่ารับเงินสารวัตรซัว ที่แกรับเพราะแกพอจะเดาได้ว่าผมมีอะไรมากกว่านี้ แต่ยอดนี้จะเอาไปบริจาคจริงหรือเปล่า พรุ่งนี้รู้กัน"

 

ต่อมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็โพสต์ภาพขณะตัวเองบริจาคเงินให้กับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาล 2 แห่ง แห่งละ 3 ล้าน โดยบอกว่าเป็นเงินของ “ซัว” ให้ช่วยหยุดโจมตี
ผมบอกไปว่า “ไม่รับเคลียร์”

 

ล่าสุด (23 มี.ค.66) "ทนายตั้ม" ได้ออกมาแถลงข่าวโดยระบุว่าที่ออกมาแถลงได้รับข้อมูลไม่ใช่แค่สายเดียว เป็นสิ่งที่ต้องนำมาพูดเพื่อสังคม โดยระบุถึงการที่นายชูวิทย์ยอมรับว่าได้เงินจากสารวัตรซัวจริง แต่ว่าก่อนหน้าเคยระบุว่าไม่รับเงินแม้แต่บาทเดียว ทนายตั้งยังกล่าวถึงถุงเงินทีตนเองนำมาโพสต์ว่ายอดเงินไม่ใช่แค่ 6 ล้านตามที่นายชูวิทย์ออกมาโพสต์ แต่มีจำนวน 10 ล้านบาท หากเทียบกับความยาวของถุงเงินตามภาพที่ตนเองได้นำมาโพสต์

 

โดยเล่าถึงที่มาที่ไปของเงินด้วยว่าเบื้องต้นก่อนที่สารวัตรซัวจะเป็นข่าว "มีกล่องดวงใจของชูวิทย์" พากลุ่มเว็บพนันไปหานายชูวิทย์ที่โรงแรมเดวิส


โดยมีเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ทุกคนต้องตะลึงทั้งประเทศนั่งอยู่ด้วย โดยถือเงิน 2 ถุงเข้าไปและมีการเรียกเงินเป็นทอด ๆ จึงขอถามนายชูวิทย์ให้ยืนยันว่าในวันนั้นมีตัวแทนเว็บพนันหรือไม่

 

ส่วนที่อ้างว่าเงินที่ไปบริจาคไม่ใช่ของสารวัตรซัว ในวันที่ 14 ก.พ. ที่นายชูวิทย์นำไปบริจาค 3 ล้านบาท กลับเคยให้สัมภาษณ์ว่าเงินที่นำไปบริจาคเป็นเงินจากพรรคพวกที่ทำงานสุจริตจึงเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ทนายตั้มอ้างว่าแก๊งนี้มีการเกี่ยวข้องกับอาบอบนวดชื่อลาลิซ่า ซึ่งมีการเรียกเงินจากอาบอบนวดดังกล่าว แต่เมื่อไม่จ่ายจึงมีการจองเวรกันต่อมา

 

ทนายตั้มยอมรับด้วยว่าการออกมาวันนี้มองว่าประชาชนยังเชื่อนายชูวิทย์ ฝากคำถามไปถึงชูวิทย์ เคยแตะ "นายแทนไท" บ้างหรือไม่ วันตรุษจีน ได้พาแทนไทยไปโรงแรมเดวิสจริงหรือไม่ ซึ่งเพราะก่อนหน้า "แทนไท" มีชื่อปรากฏในเพจนายชูวิทย์เพียง 1 วันแล้วเงียบหายไปเลย ถือเป็นการเรียกรับเงินหรือไม่

 


ทนายตั้มบอกด้วยว่าการเรียกนั้น ได้รับการประสานกล่องดวงใจของชูวิทย์ สนิทกับออนไลน์ ทำบุหรี่ไฟฟ้า และกัญชา โดยมีเทคนิคเรียกไปที่โรงแรม อ้างว่าจะเอาเงินไปทำบุญ จากการประเมินคร่าว ๆ ส่วนตัวมองว่ามากกว่า 20 ล้านบาท โดยไม่รวมเงินดิจิทัลอีก 50 ล้าน

 

อย่างไรก็ตามยืนยันว่าที่ออกมาให้ข้อมูลไม่ได้รับงานจากเว็บพนันออนไลน์ ตนเองไม่ได้นำข้อมูลจากเว็บพนันเพราะตนไม่คบค้ากับคนพวกนี้ แต่ยอมรับไม่ได้กับโรบินฮู้ดจอมปลอม ผิดหวังกับนายชูวิทย์ ยอมรับหากถูกทัวร์หลังจากนี้ก็จะเดินหน้าแฉ

 

ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นเกมการเมืองนั้น ตนเองลาออกจากเพื่อไทยนานแล้ว และพลังประชารัฐเคยชวน แต่ได้ตัดสินใจไม่ไป โดยยืนยันว่าเลือกรอบนี้ไม่สมัครพรรคไหนอีก ส่วนที่บอกปกป้องภูมิใจไทยนั้น ตนจะร่วมแฉเกี่ยวกับรถไฟฟ้าอีกคน ซึ่งมีข้อมูลแต่จะเล่นตอนใกล้เลือกตั้งให้ประชาชนรู้ไปเลย

 

ทนายตั้ม บอกด้วยว่า 3 คนที่ตนเองไม่อยากมีเรื่องในประเทศนี้คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ,พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส และ นายชูวิทย์