ผัวช็อก! เมียแอบขายบ้าน-กิจการไป กลายเป็นคนไร้บ้าน นอนบนรถ หนำซ้ำยังหอบเงิน 7 แสนหายเข้ากลีบเมฆ คาดหนีไปกับชู้ ด้านเมียแช็ตมาขอโทษ "รู้ว่าผิด แต่ไม่มีทางเลือก"

วันที่ 10 มี.ค.66 สืบเนื่องจากวานนี้ (9 มี.ค.66) เวลา 17.00 นายสัญญา ลาวิลาศ อายุ 46 ปี ชาวอำเภอศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี เดินทางออกจาก จ.อุบลราชธานี เมื่อตอนตี 4 คืนที่ผ่านมา เข้ามาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือต่อ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกภรรยาปลอมแปลงเอกสารนำบ้านพักและกิจการลานมันของตนเองไปแอบขาย ทำให้ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน อาศัยนอนบบรถจอดตามปั๊มน้ำมันมากว่า 20 วัน

นายสัญญา กล่าวว่า ตนเองมีภรรยาคนนี้เป็นคนแรกของชีวิต เพิ่งคบหากันได้ประมาณ 4 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ในวัยเด็กครอบครัวตนเองยากจน เมื่อเรียนจบ ป.6 จึงได้บวชเรียนเรื่อยมาจนจบ ป.ตรี กระทั่งอายุ 24 ปี ได้ลาสิกขาเนื่องจากติดทหาร หลักจบจากการเกณฑ์ทหาร ได้หันมาประกอบอาชีพรับจ้าง ทำงานทุกอย่างเก็บเงินเพื่อสร้างบ้านและสร้างครอบครัว ทำงานเก็บเงินได้ประมาณ 10 ปี ได้นำเงินเก็บไปออกรถทัวร์มาวิ่ง โดยประกอบกิจการรถทัวร์และนำรายได้จากการวิ่งรถทัวร์มาสร้างบ้านและทำลานรับซื้อมัน อยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยตลอดทั้งชีวิตไม่เคยคบหาผู้หญิงคนไหนมาก่อนไม่เคยมีแฟนหรือภรรยา เพราะชีวิตตนเองบวชเรียนมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก มาสึกเอาก็ตอนติดทหารเกณฑ์ จากนั้นก็ทำงานเลี้ยงดูพ่อและแม่มาตลอด จนกระทั่งมารู้จักกับ นางบี (นามสมมติ) ซึ่งประกอบกิจการลานมันเหมือนกับตนเอง แต่ธุรกิจของ นางบี ล้มลาย จึงได้มาปรับทุกข์ให้ตนเองฟัง ทำให้ได้มีโอกาสพูดคุยกัน ต่อมา 4 ปี ให้หลังตนเองจึงได้คบหากันและอยู่กินด้วยกันฉันท์สามีภรรยา และด้วยความเชื่อใจตนเองจึงได้ให้ นางบี เป็นคนดูแลกิจการด้านงานธุรการของตนเองทั้งหมด ส่วนตนเองก็ไปขับรถทัวร์พานักท่องเที่ยวไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ เพื่อหารายได้เข้าครอบครัว โดยจะไปขับรถครั้งละ 5-7 วัน จากนั้นก็จะกลับมาบ้านพัก 2-3 วันก็จะต้องออกไปขับรถอีก โดยรายได้ทั้งหมดตนเองจะให้ น.ส.บี เป็นคนเก็บไว้

กระทั่งมาเกิดเรื่องเมื่อวันที่ 19 ก.พ.66 ที่ผ่านมา หลังจากตนเองได้กลับจากการขับรถทัวร์ มาถึงที่บ้านกลับมีคนแปลกหน้านั่งอยู่ในบ้าน ตนเองจึงสอบถามว่าเป็นใครมาจากไหน ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า เขาได้ซื้อบ้านพร้อมกิจการต่อจาก นางบี หมดแล้ว ตอนนั้นตนเองช็อกและตกใจมาก จึงได้ขอดูเอกสารหลักฐานการซื้อขายต่าง ๆ ชายแปลกหน้าจึงได้นำเอกสารการซื้อขายมาให้ตนเองดู จึงพบว่าตนเองถูกนางบีปลอมแปลงเอกสารหนังสือมอบอำนาจและหนังสือสัญญาซื้อขึ้นมาเอง โดยในสัญญา นางบี ระบุว่า ตนเองได้ขายบ้านและกิจการทั้งหมดต่อนางบี เป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท ไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 แล้ว ชายแปลกหน้าเล่าต่อว่า นางบี มาติดต่อขายบ้านและกิจการให้เขาเป็นเงิน 1,200,000 บาท หลังทราบเรื่องตนเองจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.สีเมืองใหม่ อุบลราชธานี และได้ติดต่อไปหานางบี ซึ่งได้คำตอบแค่เพียงว่า "ขอโทษ รู้ว่าทำผิด แต่ไม่มีมีทางเลือก" เท่านั้น โดยทาง จนท.ตำรวจ ไม่ได้มาช่วยเหลือตนเองเลย ตนเองไม่มีที่อยู่ บ้านตัวเองก็เข้าไม่ได้ต้องอาศัยจอดรถตามปั๊มและนอนบนรถมาตลอด โดยไม่มีเงินติดตัว เนื่องจาก นางบี อดีตภรรยาของตนเองหอบเงินหนีไปทั้งหมด ตนเองได้แต่ไลน์สอบถามว่าทำไมจึงทำกันแบบนี้ก็ได้รับแต่คำขอโทษกลับมา ตนเองรู้สึกหมดหนทาง และมีชาวบ้านที่ทราบข่าว มาบอกกับตนเองว่าให้มาหา นายเอกภพ เพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ ตนเองจึงได้เดินทางจาก จ.อุบลราชธานี มาร้องขอให้ทาง เพจสายไหมต้องรอด ช่วยเหลือดังกล่าว

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ภายหลังรับแจ้ง ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย เกษโกมบ ผกก.สภ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี เพื่อขอให้ช่วยลงมาดูสำนวนคดี และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยขอให้ ผกก. เร่งแก้ปัญหา เนื่องจาก นายสัญญา ไม่มีที่พักอาศัย ต้องไปนอนตามปั๊มน้ำมัน ซึ่งน่าเห็นใจมาก