แพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล ชาวบ้านที่ไปดูหมอลำเสียชีวิต 2 คน สูญหาย 3 คน เจ้าหน้าที่ระดมค้นหา

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์แพโดยสารข้ามฟากแม่น้ำมูล ที่ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ล่มเมื่อเวลา 00.20 น.ของเมื่อคืนที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ เด็กชาย อายุ 8 ขวบ และมีผู้สูญหายจำนวน 4 ราย จากผู้ที่โดยสารแพทั้งหมดกว่า 30 ราย

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ทีมกู้ภัยจี้กงอุบลราชธานี และชาวบ้านคำนกหอ โดยใช้ชุดประดาน้ำจำนวน 8 นาย ร่วมกันค้นหาได้พบร่างของนางสาวจีรวัน อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นแม่ของน้องอนันธสิทธิ์ ซึ่งเท่ากับว่าแม่ลูกคู่นี้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งคู่ ส่วนอีก 3 ราย ซึ่งเป็นพ่อและลูกชาย 2 คน และชายวัยกลางคนอีก 1 ราย ที่ยังไม่พบร่าง

นายตุลาธร รุ่งเรือง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจี้กงอุบลราชธานี หนึ่งในชุดค้นหาให้ข้อมูลว่าเมื่อเวลา 00.20 น. เมื่อคืนนี้ได้รับแจ้งว่ามีแพโดยสารข้ามฟากล่มที่กลางแม่น้ำมูล ใกล้กับบ้านคำนกหอ หมู่ที่ 15 ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จึงได้แจ้งหัวหน้าชุดนำเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือซึ่งเดินทางมาถึงประมาณ 02.00 น. ซึ่งในขณะนั้นชาวบ้านที่รอดชีวิตได้ตะเกียกตะกายช่วยเหลือตัวเองขึ้นมาฝั่งได้แล้ว แต่ยังผู้สูญหายอยู่ 5 คน จึงได้นำเรือออกค้นหาซึ่งมาพบรายที่ 1 เป็นเด็กชาย อายุ 8 ขวบ และมาพบอีก 1 ราย ช่วงสายของวันนี้ โดยใช้เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำทั้งหมด 8 นาย สลับกันดำน้ำค้นหา และยังมีอีกชุดค้นหาตามแนวชายฝั่ง แต่ยังไม่พบอีก 3 ราย ซึ่งจุดที่แพล่มนั้นห่างจากฝั่งประมาณ 20-30 เมตร น้ำลึกประมาณ 5 -15 เมตร

ขณะนี้พบซากแพแล้วลักษณะหงายท้องขึ้น ซึ่งวิธีการค้นหาใช้เจ้าหน้าที่วางแนวเชือกค้นหาเป็นรัศมีวงกลม ระยะเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เมตร สิ่งที่เป็นอุปสรรคคือ ไม่ทราบจุดที่ 3 คนนั้นตกและอาจจะมีการว่ายน้ำหนีออกห่างจากจุดตกเท่าไหร่ จึงไม่สามารถหาพิกัดได้ชัดเจน

ทางด้าน นางบุญนอม อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นย่าของ เด็กชาย อายุ 8 ขวบ ที่เสียชีวิต เล่าว่าแพโดยสารที่เกิดเหตุเป็นแพของสามีตนเอง จะใช้โดยสารรับจ้างเฉพาะในช่วงกลางวัน ส่วนเมื่อคืนนี้ลูกชายและลูกสะใภ้ ได้พาชาวบ้านไปเที่ยวงานบุญประจำปี ที่บ้านตุงลุง อ.โขงเจียม ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำมูลอีกฟากหนึ่ง โดยในงานก็มีหมอลำซิ่ง ซึ่งในเกิดเหตุชาวบ้านและเพื่อนบ้านก็พยายามจะนำเรือไปช่วยเหลือแต่เรือแต่ละลำก็ไม่มีน้ำมัน ทำให้การช่วยเหลือล่าช้าไปด้วย ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่แน่ใจว่าลูกชายเป็นคนขับ หรือลูกสะใภ้ผู้เสียชีวิตขับ เพราะว่าลูกชายอยู่ระหว่างเสียใจไม่สามารถที่จะระบุเหตุการณ์ได้ชัดเจน ซึ่งขณะนี้ศพของ เด็กชาย อายุ 8 ขวบ ตั้งศพไว้ที่บ้าน ส่วนศพของลูกสะใภ้คาดว่าจะไปตั้งศพไว้ที่วัดสุวรรณวารี

จากเสียงวิจารณ์ของชาวบ้านระบุเป็นกระแสข่าวว่า ก่อนที่แพชาวบ้านจะมาล่มนี้ เนื่องจากในงานบุญประจำปีนั้น มีเหตุการณ์ทะเลาะกัน และมีการยิงอาวุธปืนด้วย ซึ่งชาวบ้านกลุ่มนี้จึงพยายามเร่งรีบนำชาวบ้านกลับ ซึ่งอาจจะบรรทุกคนมาจำนวนมากเกินกว่าที่แพดังกล่าวจะรับน้ำหนักได้ จึงเกิดเหตุการณ์แพล่มและมีผู้เสียชีวิตและสูญหายดังกล่าว