ส.ต.ท.ตามมาคุยกับเมีย แต่เมียขอหย่า ให้เพื่อนผู้ชายช่วยเป็นพยาน จึงโมโหชักมีดไล่แทงเพื่อนเมียบาดเจ็บ พังประตูบ้านเสียหาย

จากกรณีเพจ สนามยิงปืนดามปิยะพันธ์ อุบลราชธานี โพสต์ภาพชายแต่งกายคล้ายตำรวจไล่แทงไรเดอร์ในบ้านเช่าแห่งหนึ่งบนถนนธรรมวิถี อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นและติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ สาเหตุเกิดจากอะไร

วันนี้ 8 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังนายปิยะพันธ์ จันทมาส อายุ 43 ปี เจ้าของคลิป เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนได้รับว่าจ้างจากลูกค้าให้ไปปะยางที่หอพักตรงข้ามจุดเกิดเหตุ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะ จึงได้มองดูเห็นชายแต่งกายครึ่งท่อนคล้ายตำรวจ มีซองปืนพกอยู่ที่เอว แต่ไม่เห็นตัวปืน ในมือถือมีดปลายแหลมวิ่งไล่แทงชายในบ้าน พร้อมทั้งใช้จอบเหล็กทุบรถยนต์ฮอนด้า และจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหาย ตนจึงได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งลงในกลุ่มของสนามยิงปืนว่ามีชายคลั่งในซอยธรรมวิถี ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที ตนจึงปะยางให้ลูกค้าเสร็จจึงได้ยืนดู ชายที่ก่อเหตุถามกลับมาว่า มึงมีปัญหาอะไรไหม ตนก็ตอบไปไม่มี ผมมาปะยาง แล้วก็ขับรถออกมาจากที่เกิดเหตุ และโพสต์คลิปลงในเพจดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวได้ลงไปยังจุดเกิดเหตุ พบนายธวัชชัย อายุ 36 ปี ชายที่ถูกไล่แทงในคลิป พาเดินไปดูความเสียหายของรถจักรยานยนต์ของตนเอง และรถยนต์เก๋งของเพื่อนที่จอดอยู่ในบ้านถูกทุบเสียหาย นายธวัชชัย เล่าว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่า อยู่ด้วยกัน 4 คน คู่กรณีจริงๆ คือ นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกับแฟนของตนเอง โดยนางสาวเอ เป็นภรรยาของ "ส.ต.ท." อายุ 29 ปี เป็นตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ทั้งคู่มีปัญหากันในครอบครัวและนัดกันมาเพื่อหย่าร้าง

โดยตำรวจนายดังกล่าว เมื่อมาถึงก็ได้มีปากเสียงกันกับนางสาวเอ พร้อมทั้งถามว่าจะหย่ามีใครเป็นพยาน นางสาวเอก็บอกว่าให้ตนเป็นพยาน ทำให้นายตำรวจคู่กรณีไม่พอใจ ถามกลับว่าพร้อมที่จะตายแล้วใช่ไหมถึงเข้ามาเสือกเรื่องชาวบ้าน

จากนั้น ส.ต.ท. ได้ดึงมีดออกมา 2 เล่ม แล้วไล่แทง ตนเองต้องวิ่งหนีตายไปหน้าปากซอย หวังเปิดทางให้นางสาวเอ หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุด้านหลังบ้านเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี ส่วนตนเองระหว่างที่วิ่งหนีถูกแทงเข้าที่ด้านหลัง 1 แผลแต่ไม่ลึกมาก ตอนนั้นคิดว่าไม่น่ารอดเพราะคู่กรณีเป็นตำรวจ รู้ยุทธวิธีเป็นอย่างดี แต่ก็โชคดีหนีรอดมาได้ จากนั้น ส.ต.ท. ย้อนกลับมาบ้านเช่า พังประตูบ้านเพื่อหาตัวนางสาวเอ ทำประตูห้องนอน ห้องน้ำเสียหาย

หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้เข้ามาระงับเหตุเกลี้ยกล่อม ส.ต.ท. นานกว่า 1 ชั่วโมง จึงตัดสินใจนำโล่บังแล้วเข้าไปจับกุมตัว เพราะไม่แน่ใจว่า ส.ต.ท.จะมีอาวุธปืนหรือไม่ แต่เมื่อ ส.ต.ท. เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยอมจำนนให้จับกุมนำตัวไปสงบสติที่โรงพัก

ด้าน ส.ต.ท. ให้การว่า ตนเองอยู่กินกับนางสาวเอ จนมีลูก 1 คน อายุ 3 ขวบ ก่อนเกิดเหตุก็มาพักอยู่ที่บ้านของทางฝ่ายหญิงที่อำเภอพิบูลมังสาหาร ระหว่างนั้นก็มีการวิดีโอคอลคุยกัน นางสาวเอเกิดขอหย่าตนจึงเกิดความโมโห เพราะเห็นนายธวัชชัย นั่งดื่มเบียร์ในบ้าน และนายธวัชชัยจะเป็นพยานให้นางสาวเอในการหย่า จึงได้เดินเก็บข้าวของออกจากอำเภอพิบูลมังสาหาร และมาซื้อมีดที่ห้างแห่งหนึ่งก่อนเข้าไปที่บ้านเกิดเหตุ และเกิดเหตุการณ์ตามคลิป

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ส.ต.ท. ในความผิดฐานบุกรุกเคหะสถานของผู้อื่น ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ และทำให้เสียทรัพย์ ก่อนคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดอุบลราชธานี ฝากขัง ดำเนินคดีตามกฎหมาย