ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี เตรียมย้ายผอ.ออกนอกพื้นที่ พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัย เซ่นทุจริตอาหารกลางวันเด็กนักเรียน หลังตรวจสอบพบมีมูลความผิด

จากกรณีเพจ “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” ได้ออกมาแฉถึงประเด็นเกิดการทุจริตเงินอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในของ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยอ้างว่า “…โรงเรียนดังกล่าว ขยายโอกาส มีตั้งแต่อนุบาลถึง ม.ต้น รวม 591 คน คำนวณเงินอุดหนุนต่อหัว 491 คน ตกวันละประมาณ 10,800 บาท เก็บค่าอาหารจากเด็กมัธยมอีกคนละ 20 บาทต่อวัน เด็ก 100 คน เป็นเงินวันละ 2,000 บาท ส่วนครู 30 คน จ่ายรายเดือนคนละ 300 ถึงเวลาทำ ก็ให้เด็กทั้งหมดตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม มากินในงบอุดหนุน ส่วนที่เก็บเพิ่มจากเด็กมัธยมกับครู ยักเอาไว้ อ้างว่าเอาไว้รับรองแขก เด็กกินไม่อิ่มขอเติม ไม่มีให้เติม…” รวมทั้งยังมีรูปภาพอาหารกลางวันของนักเรียนที่มีปริมาณไม่พออิ่มและไม่ได้คุณภาพ

ล่าสุด วันนี้ (18ก.พ.66) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายชยพล อินทรสุภา นายอำเภอเกาะสมุย เดินทางไปที่โรงเรียนที่ถูกร้องเรียน พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อพบกับ ผู้บริหารฝ่ายการศึกษา ตลอดจน ผอ.โรงเรียน และครูที่เกี่ยวข้อง โดยมีการประชุมพูดคุยข้อเท็จจริงนานกว่า 1 ชั่วโมง

นายวิชวุทย์ เปิดเผยว่า จากประเด็นการสอบสวนพบว่า มีมูลในเรื่องของการเอาเงินอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนระดับอนุบาล ระดับประถมศึกษา ที่ได้งบอาหารกลางวันมาคนละ 22 บาทต่อวัน แต่ได้มาใช้ทำอาหารรวมกันกับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา 60 คน และคุณครู 30 คน ให้รับประทานด้วย ซึ่งนักเรียนมัธยมจะถูกเก็บเงินค่าอาหารกลางวันคนละ 20 บาท ส่วนคุณครูเก็บเดือนละ 300 บาท แต่เงินส่วนนี้ได้เอามาใช้ซื้อวัตถุดิบบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะใช้งบอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนระดับอนุบาลและระดับประถมศึกษา ทำให้มีปัญหาในเรื่องของคุณภาพอาหาร ปริมาณอาหาร อาจจะไม่ตรงกับที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ในเรื่องของ “ไทยสคูลลันช์”

“…เงินโครงการอาหารกลางวัน จะใช้ทำอาหารกลางวันเฉพาะเด็กนักเรียนระดับอนุบาลและระดับประถมศึกษา แต่ทาง ผอ. ได้นำมาใช้ทั้งหมดเลย ส่วนเงินที่เก็บจากเด็กมัธยมและคุณครู ได้มีการทำบัญชีนอกระบบงบประมาณของโรงเรียน ซึ่งผิดระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ถึงแม้จะมีคณะกรรมการฝ่ายการเงินตรวจนับก็ตาม แต่ที่สำคัญ เงินส่วนนี้เอามาใช้บ้างเพียงบางครั้ง แต่จริง ๆ แล้วถ้าจะทำอย่างนั้น เงินที่เก็บจากนักเรียนมัธยมและคุณครูจะต้องเอามารวมทั้งหมด ในการที่จะเอามาซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีปริมาณอาหารที่เพียงพอ ถูกต้องตามหลัก ไทยสคูลลันช์ และให้เงินจำนวนนี้มาเป็นรายได้ของโรงเรียนด้วย ตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการที่ได้กำหนดไว้…” นายวิชวุทย์ กล่าว

สำหรับแนวการดำเนินการของจังหวัดสุราษฎร์ธานี คณะกรรมการตรวจสอบก็จะนำเรื่องไปที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 เพื่อสรุปผลข้อเท็จจริงต่าง ๆ ถ้ามีมูลขึ้นมา ก็จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับผู้อำนวยการโรงเรียน แต่สิ่งแรกที่ต้องดำเนินการก่อนคือ ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนออกไปที่อื่นก่อน เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มาหาข้อมูลความจริงให้ปรากฏโดยเร็ว