"แพรรี่" ออกโรงแนะพระควรอยู่ในที่ ๆ ควรอยู่ ยกเคสพระขี่เจ็ตสกี-บานาน่าโบ๊ต-ฉันผัดไทในห้องน้ำสาธารณะ มันดูไม่งาม หลังหลวงพ่อปีนต้นไม้ จี้นายกฯ สอบสื่อนำเสนอข่าวฉาว

วันที่ 15 ก.พ.66 จากกรณีที่วานนี้ (14 ก.พ.66) เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 14 ก.พ. 2566 จากกรณีพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตธมโม เจ้าสำนัก สำนักปฏิบัติธรรมพุทธะชยันตีสวนทำแสงเทียน ต.ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เดินทางมายื่นหนังสือ เรื่องการทำลายพระสงฆ์และพระพุทธศาสนา โดยทางผู้ใหญ่บ้านเมืองไม่ร่วมตรวจสอบอย่างจริงจัง ปล่อยให้มารังแกพุทธศาสนาแบบนี้

ลูกศิษย์และคนที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า หลังจากได้ยื่นหนังสือกับทางเจ้าหน้าที่แล้ว ทางพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา ได้ฉันเพลที่โรงอาหาร ก.พ. จากนั้นได้คุยกับทางกลุ่มลูกศิษย์ ว่า “ให้เจ้าหน้าที่มารับแบบนี้จะได้ผลอะไร ทำไมนายกฯ ไม่ออกมารับเอง” ก่อนที่จะบอกกับลูกศิษย์ว่า ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วก็หายไป จนกระทั่งมีวินจักรยานยนต์ บริเวณปากซอยลิขิต ได้วิ่งมาบอกว่ามีพระปีนต้นโพธิ์

จากนั้น เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำรถกระเช้าจากสถานีดับเพลิงสามเสน พร้อมนำเจ้าหน้าที่ และพระสงฆ์ที่มายื่นหนังสือด้วยกันขึ้นกระเช้า ไปพูดคุยเรียกกล่อมประมาณ 10 นาที ทางพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา จึงได้ยอมขึ้นกระเช้าลงมา

โดยพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา กล่าวว่า การนำเสนอข่าว ควรนำเสนอข่าวในสิ่งที่ดี ไม่ใช่เสนอข่าวทำให้พระสงฆ์ส่วนใหญ่เดือดร้อน เพราะส่วนเสียนั้นมันเป็นส่วนน้อย ในส่วนที่ดีก็ควรส่งเสริม เราเป็นห่วงว่าสิ่งที่ท่านนำเสนอ มันเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง สร้างความเกลียดชังให้หมู่คณะสงฆ์และประชาชน ตนปีนต้นไม้วันนี้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีท่านอยู่สูง โดยต้องการนำดอกกุหลาบไปมอบให้ เราจะต้องขึ้นที่สูง

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าไปยังศูนย์รับเรื่องร้องทุกของรัฐบาล เพื่อทำการพูดคุย โดยมีนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพูดคุย

ล่าสุดทางด้านมิสเปรียญ9 แพรรี่ ไพวัลย์ วรรณบุตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "ก็อยู่ในที่ ๆ พระควรจะอยู่สิเจ้าคะ พระเนี่ย ถ้าอยู่แบบพระจริง ๆ อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ทั้งนั้นแหล่ะเจ้าค่ะ

อย่างที่ท่านเขียนมากัน ดิฉันอยากชวนให้แยกแยะแบบนี้นะคะว่า พระเดินริมทะเลไม่ผิดค่ะ แต่พระจะขึ้นค่อมเจ็ทสกีหรือห้อยโหนบานาน่าโบ็ทเยี่ยงฆราวาส แบบนี้ ทำไม่ได้ค่ะ พระจะเข้าเซเว่นได้นะคะ แต่พระจะสั่งขนมจีบซาลาเปาหลังเที่ยง แบบนี้ทำไม่ได้ค่ะ พระจะซื้อน้ำปานะฉัน แบบนี้ทำได้นะคะ แต่พระจะฉันพยานาคเป็นขวดๆ แล้วเมาหัวราน้ำ แบบนี้ไม่ได้ค่ะ

พระมีสิทธิ์เข้าห้างสรรพสินค้านะคะ แต่พระไม่มีสิทธิ์ช็อปของแบรนด์เนมอันเกินควรแก่สมณะจากปัจจัยของชาวบ้านค่ะ ครีมทาผิวและน้ำหอมใดๆ ไม่ควรแก่สมณะนะคะ กระเป๋าหรือรองเท้าราคาแพง ก็ไม่ใช่สิ่งที่สมณะพึงเลือกซื้อใช้สอยด้วยตนเอง
พระจะอาบน้ำตกที่ไหนไม่มีใครว่าค่ะ แต่พระจะเปลื้องผ้า ให้คนถูบ่าถูหลัง จะถ่ายรูปอาบแดด เล่นหูเล่นตาอย่างเสียสมณสัญญา แบบนี้ทำไม่ได้ค่ะ

พระไม่ต้องปีนเสาไฟ หรือหนีไปอยู่บนยอดดอยยอดไม้หรอกนะคะ ดูจะลำบากเกินจำเป็ีน พระจะอยู่ในโบสถ์ในวิหารหรือในลานเจดีย์ที่ไหนก็ได้ ขอแค่ท่านไม่ลืมว่า ท่านเป็นนักบวช ท่านไม่ใช่ฆราวาส ท่านประพฤติพรหมจรรย์ ท่านไม่เสพกามคุณ ท่านห่มเหลือง ท่านไม่ได้ใส่กางเกง ถ้าระลึกได้แบบนี้ อยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะ

คือปัญหาทุกวันนี้มันเหมือนที่โบราณเขาว่า คือหัวโล้นอยากรำหัวดำอยากเทศน์ มันก็เลยผิดที่ผิดทางไงคะ พระอยากเสพกามคุณแบบชาวบ้าน แต่พระไม่อยากลาสิกขา มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น คือสิ่งไหนที่พระไม่ควรทำ พระก็ทำ ที่ไหนที่พระไม่ควรอยู่ พระก็ไปอยู่ แล้วแบบนี้จะมาโทษใครกันล่ะคะ ก็ต้องโทษพวกท่านเองนั่นแหล่ะ ที่ละทิ้งความเป็นสมณะในตัวเอง

ปล. ผัดไทควรฉันในโรงครัวของวัดนะคะ ไม่ควรเข้าไปฉันในห้องน้ำสาธารณะ มันดูไม่งาม จบ!"