กินได้เหรอ?! รองผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ โชว์ชิมมะขามหวานขึ้นรา ชี้กินได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เจออย่าทิ้ง หลังชนะประมูลสุดยอดมะขามหวานประจำปี 2566

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่เวทีกลางงานมะขามหวานนครบาลเพชรบูรณ์ หน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาชน ร่วมประมูลมะขามหวานที่ชนะการประกวด ในงานมะขามหวานนครบาลเพชรบูรณ์ ประจำปี 2566 ซึ่งการประมูลในครั้งนี้ สืบเนื่องจากสำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดประกวดมะขามหวาน จำนวน 5 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ศรีชมภู, พันธุ์ขันตี, พันธุ์สีทอง, พันธุ์ประกายทอง และพันธุ์อื่นๆ พร้อมนำมะขามหวาน 5 สายพันธุ์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ มาคัดเลือก เป็นสุดยอดมะขามหวานจังเพชรบูรณ์ ประจำปี 2566

จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้นำมะขามหวาน จากสวนที่ชนะเลิศการประกวด มาจัดประมูล เพื่อหารายได้มอบให้สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ นำไปใช้ในกิจการสาธารณกุศล โดยมีจำนวน 8 กระเช้าพิเศษ กระเช้าละ 1 กิโลกรัม ประกอบด้วย มะขามหวานจากสวนที่ชนะเลิศการประกวดมะขามหวาน ปี 2566 ทั้ง 5 สายพันธุ์ มะขามหวานจากสวนที่ชนะสุดยอดมะขามหวาน ปี 2564 และ 2565 และ มะขามหวานจากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรขี้นาคแผนใหม่ โดยมีราคาเริ่มต้นประมูลที่กิโลกรัมละ 1,500 บาท สรุปการประมูลในครั้งนี้ มียอดการประมูลรวมทั้งสิ้น 60,500 บาท

และที่น่าสนใจคือ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ชนะการประมูลมะขามหวานพันธุ์ สีทอง ในราคากิโลกรัมละ 16,000 บาท ของ นายอภิวรรธน์ ขีดวัน เกษตรกร ตำบลห้วยใหญ่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ ที่ชนะเลิศการประกวดมะขามหวานพันธุ์สีทอง และยังได้รับคัดเลือกเป็นสุดยอดมะขามหวานจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี 2566

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ชิมมะขามหวานที่ขึ้นราโชว์ พร้อมกล่าวว่า มะขามที่แกะออกมาแล้วพบเชื้อราสีขาวนั้น สามารถรับประทานได้ หากพบอย่าทิ้ง มีงานวิจัยรองรับ ดร.จินตนา สนามชัยสกุล ข้าราชการบำนาญมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ภาควิชาชีวภาพเราได้มีการเก็บตัวอย่างเชื้อราจากมะขามหวานทั่วจังหวัดเพชรบูรณ์ นำมาเพาะเลี้ยงและแยกเชื้อออกมา พบว่าเชื้อราที่เด่นและสำคัญ เป็นเชื้อราขาว ที่เรียกว่า ราน้ำตาล มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Peatalotiopsis sydowiana มีการส่งไปวิเคราะห์ที่ ศูนย์เทคโนโลยีไบโอเทคที่กรุงเทพฯ และมีการวิเคราะห์ว่าเชื้อราตัวนี้มีสารพิษ สามารถรับประทานได้หรือไม่ ซึ่งมีรายงานกลับมาว่าเป็นกลุ่มเชื้อราที่ไม่สร้างสารพิษ ซึ่งสามารถรับประทานได้โดยไม่เป็นพิษกับร่างกาย

นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ว่าราชนิดนี้ มีประโยชน์หรือไม่ โดยพบว่า มะขามหวานที่เป็นเชื้อรา จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ มากกว่ามะขามที่ไม่เป็นเชื้อรา 1,000 เท่า ซึ่งมีตัวเลขยืนยันในงานวิจัย นอกจากนี้เชื้อราตัวนี้ยังทำให้มะขามหวานมีรสชาติหวานขึ้น เนื่องจากเชื้อราไปลดปริมาณ กรดทาร์ทาริก ที่มีรสเปรี้ยวให้ลดน้อยลง ทำให้มะขามหวานมีแต่ปริมาณน้ำตาล

ด้านนายแพทย์มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการแพทย์แม่นยำ ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ถึงกรณีดังกล่าวว่า มะขามหวาน~93% มีเชื้อรา (แม้จะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น) แต่ไม่ใช่ราที่สร้างพิษ อาหารหลายชนิดก็มีราเป็นส่วนประกอบเช่นซีอิ๊ว, บลูชีส, เต้าเจี้ยว สามารถกินได้ แต่ราที่ต้องระวังคือราสร้างสารพิษ Alfatoxin ซึ่งชอบขึ้นในธัญพืช, ขนมปัง, ถั่ว เจอต้องทิ้งหมด