จบดราม่า "ผอ.รร." ประสาน "รถบัสทหาร" ค่าใช้จ่ายเกือบ 10,000 บาท ขนเด็กกลับจากเข้าค่าย หลังทัวร์ลงใช้รถบรรทุกขนลูกเสือเข้าค่าย

จากกรณีดราม่าหลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กได้เผยแพร่คลิปมีการรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ มีนักเรียนชาย-หญิง สวมชุดลูกเสือ-เนตรนารี กว่า 100 คน ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากโดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย

 

ต่อมานายสมหมาย สุดถนอม ผอ.โรงเรียนวัดลำนาว ชี้แจงว่า ตนเองบริสุทธิ์ใจและรถบรรทุก 18 ล้อพ่วง ที่ใช้บรรทุกเด็กนั้นก็เป็นรถของตัวเองที่ใช้บรรทุกปาล์มน้ำมัน มั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้ ส่วนการขึ้น-ลงก็มีบันไดให้ และไม่ได้เดินทางระยะไกล ระยะทางจากโรงเรียนมาที่ค่ายลูกเสือ 26 กิโลเมตร และตนเองเชื่อว่ามีความปลอดภัยมากกว่าขนเด็กด้วยรถกระบะ ซึ่งใครจะมีความคิดเห็นแตกต่างกันยังไงก็แล้วแต่ ต่างคนต่างคิด ตนเองเป็นคนออกค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เนื่องจากไม่มีงบประมาณในการจัดขนส่งเด็กและก่อนหน้านี้ได้แจ้งเด็กและผู้ปกครองให้ทราบแล้ว

 

ล่าสุด (3ก.พ.66) ที่ค่ายลูกเสือไทยเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นวันที่เด็ก ๆที่ไปเข้าค่ายลูกสือต้องเดินทางกลับ ผอ.โรงเรียนวัดลำนาวผู้บังคับการค่ายชุมนุม เปิดเผยว่า วันนี้ได้ประสานรถทัวร์ของทหารจากค่ายเทพกษัตรีศรีสุนทรหน่วยสันพาวุฒิ กระสุนที่ 24 อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดย พ.อ.สมพร สุขอนันต์ เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งต้องเรียนโดยตรงว่าสืบเนื่องจากการนำเสนอข่าว และกระแสจากโลกโซเชียลซึ่งไม่ตรงความจริงสักเท่าไหร่ จึงได้ประสานรถบัสจากทหาร มารับเด็กกลับจากเข้าค่าย แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่าย เกือบ 10,000 บาท และประกอบด้วยสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ซึ่งมีฝนตกตลอดตั้งแต่ทั้งวัน เพื่อความปลอดภัยของเด็ก และเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย จึงได้มีการปรับเปลี่ยนแผนใช้รถบัสแทนรถบรรทุก

 

ผอ.โรงเรียนวัดลำนาวผู้บังคับการค่ายชุมนุม กล่าวอีกว่าจากที่ในโซเชียลได้มีมีการแสดงความคิดเห็นเรื่องไม่ใช้รถทัวร์ตั้งแต่แรก ขอชี้แจงว่าเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูง และก่อนหน้านี้ที่ใช้รถบรรทุก 18 ล้อพ่วงนั้น ควักเงินส่วนตัวจ่ายเอง ซึ่งปกติตนเองก็จะขับเองด้วย แต่วันนั้นไม่ได้ขับเอง และระยะทางไปกลับแค่ 26 กิโลเมตร ซึ่งในการใช้รถบรรทุกนั้นเราก็มีบันไดให้เด็กนักเรียนขึ้นซึ่งเราบอกว่าได้ฝึกความเป็นลูกเสือไปในตัว และเมื่อเด็กไปอยู่ในรถศีรษะก็ไม่ได้โผล่ออกจากรถเลยซึ่งความปลอดภัยก็มีแล้ว และการเดินทางใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีก็ถึงค่าย จึงยืนยันคือต้องการแค่ คือ 1.เรื่องความปลอดภัยของเด็ก ๆ 2.เรื่องความประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งในวันนั้นไม่ใช่มีเพียงเด็กอย่างเดียวที่อยู่ในรถบรรทุกแต่ก็มีคุณครูอยู่ด้วยตลอด