นายกฯ​ นั่งรถไฟ​ ลงพื้นที่ตลาดร่มหุบ ชาวบ้าน​ นักท่องเที่ยวกรี๊ดสนั่น​ ขอถ่ายภาพ​ บอกรักลุงตู่​ อยากให้อยู่ต่ออีกสมัย​ เจ้าตัวบอกมีความสุข​เห็นบรรยากาศการท่องเที่ยว​คึกคัก​ ก่อนขอพรหลวงพ่อวัดบ้านแหลม​ ทำงานเพื่อบ้านเมืองให้สำเร็จ

วันที่ 3 ก.พ. 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สมุทรสงคราม ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล โดยมีนางสาวรังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย ที่จะย้ายมาเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และประชาชนมารอต้อนรับ

เมื่อเดินทางถึง จ.สมุทรสงคราม นายกรัฐมนตรี ขึ้นรถไฟ ขบวนที่ 4383 จากสถานีรถไฟลาดใหญ่ ไปยังสถานีรถไฟแม่กลอง (ตลาดร่มหุบ) ได้มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมารอรับนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตื่นเต้น ถ่ายรูปเซลฟี่ร่วมกับขบวนรถไฟที่นายกรัฐมนตรีโดยสารมา ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนรอให้การต้อนรับอยู่โดยรอบสถานีรถไฟแม่กลอง มอบดอกไม้ให้กำลังใจ​ พร้อมตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ​ ลุงตู่อยู่ต่อ​ เชียร์ลุงตู่นะคะ​ รักลุงตู่” ขณะที่นักท่องเที่ยวในขบวนรถไฟก็ตื่นเต้น โดยนายกฯ ตะโกนทักทายประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มารอต้อนรับ พร้อมกล่าวระหว่างอยู่บนขบวนรถไฟว่า รู้สึกมีความสุขที่ได้มาเจอกับประชาชน ส่วนนักท่องเที่ยวก็บอกว่าตื่นเต้น ที่จะได้เจอนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ก็กล่าวว่า ถึงตนไม่มานักท่องเที่ยวก็เยอะอยู่แล้ว

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ลงจากรถไฟ เพื่อทักทายพูดคุยกับประชาชน และมีนักท่องเที่ยวขอเซลฟี่​ และนักมีนักท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าวว่า ตนเคยพบนายกรัฐมนตรีที่เชียงใหม่​ วันนี้มาพบอีกครั้งก็รู้สึกตื่นเต้น

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอนหนึ่งกับประชาชนว่าจะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด​ ตนทำเพื่อทุกคน​ ประชาชนจึงตอบกลับว่า​ ชาวสมุทรสงครามเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรี และระหว่างนั้นมีประชาชนอีกรายตะโกนว่า​ “เลือกลุงเหมือนเดิม​ ปีนี้ก็เลือกลุงอีก”​

โดยระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินจากสถานีรถไฟแม่กลองมายังวัดเพชรสมุทร ได้แวะถ่ายรูปและทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเองตลอดทาง พร้อมกับระบุว่า​ ขอทุกคนต้องช่วยกัน​ และมีชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่าเป็นสะใภ้แม่กลองนำเสื้อยืดสีขาวมาขอลายเซ็นนายกรัฐมนตรี โดยนายรัฐมนตรีเขียนข้อความว่า “ลุงตู่รักทุกคน” ​ระหว่างนั้นในมีประชาชนตะโกนว่าให้นายกเป็น นายกรัฐมนตรีอีกสมัย​ โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่าขอให้ทุกคนช่วยกัน​

ขณะเดียวกันมีชาวบ้านจากจังหวัดเพชรบุรีเดินทางมารอพบนายกรัฐมนตรี โดยพากันหารค่าน้ำมันรถเพื่อเดินทางมา พร้อมยืนยันว่าไม่มีใครจ้างมาแต่อย่างใด นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังอุ้มเด็กน้อย​ "น้องเมเปิ้ล"​ ที่มารอ อยู่หน้าพระอุโบสถอีกด้วย

จากนั้นนายกรัฐมนตรีรับฟังการรายงานความคืบหน้ารถไฟในโครงการพัฒนารถไฟสายวงเวียนใหญ่​ -​ ท่าฉลอม ก่อนที่จะเดินต่อมายังวัดเพชรสมุทร กราบนมัสการหลวงพ่อวัดบ้านแหลม และห่มผ้าหลวงพ่อวัดบ้านแหลม​

โดยนายกรัฐมนตรีเปิดเผยภายหลังการเข้ากราบนมัสการ เจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทร ระบุว่า เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลม ให้พร ว่า “ให้ทำงาน​ เพื่อบ้านเมืองให้สำเร็จทุกประการ ให้ประชาชนมีความสุข​ เมื่อถามว่านายกฯ มีกำลังใจมากขึ้นหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า "ทำให้ทุกคน"

โดยก่อนที่ในรัฐมนตรีจะเดินขึ้นรถ ได้พูดคุยกับเจ้าอาวาสวัดบ้านแหลม ถึงการพัฒนาในพื้นที่ว่า​ วันนี้จะต้องเร่งรัดพัฒนา การท่องเที่ยวเมืองหลักเมือง ซึ่งส่วนใหญ่คนจะไป ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปยังเมืองหลัก ดังนั้นเราจะต้องรักกันเพื่อสร้างเครือข่าย การคมนาคม ด้านการท่องเที่ยวซึ่งตนก็จะสร้างความร่วมมือ พร้อมเปรียบว่าเหมือนครอบครัวใหญ่ที่มีลูกจำนวนเยอะ และกล่าวขอบคุณเจ้าอาวาสที่อวยพรให้ตนด้วย

สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้นอกจากนางสาวรังสิมา เจ้าของพื้นที่แล้ว ยังมี ยังมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐที่จะย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมคณะด้วยเช่น พันโทสินทบ แก้ววิจิตร ส.ส. นครปฐม​ เขต 1 นายอัครเดช​ วงษ์พิทักษ์โจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์​ นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ  ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ​ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์​ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีใช้รถยนต์ Toyota Alphard หมายเลขทะเบียน ​3 กญ ​2929 กรุงเทพมหานคร

ขณะที่ ในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาพบประชาชนที่วิทยาลัยเทคนิค สมุทรสงคราม ​และในสัปดาห์หน้าในวันที่ 13 กุมภาพันธ์​ 2565 นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี​ เพื่อเปิดอาคารสำนักงานเทศบาล​ และตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำ​ และในวันที่​ 18 กุมภาพันธ์​ นายกรัฐมนตรี​จะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่​เปิดประตูสู่อีสาน​ ที่จังหวัดนครราชสีมา​ ส่วนในวันที่ 22 กุมภาพันธ์​ นายกรัฐมนตรี ​มีกำหนดการตรวจราชการที่จังหวัดระยอง​