พยานปากเอกแก๊งฟอกเงินเข้าเลื่อนดีเอสไอเป็น 19 ม.ค. เตรียมให้การ-แจงโอนเงิน 53 ล้านให้ "นอท-กองสลากพลัส" ขณะที่อธิบดีฯ พร้อมลาออก หากพบข้อมูลช่วยเสี่ยเบนท์ลีย์จริง

วันที่ 11 ม.ค.66 สืบเนื่องจากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้กระทำความผิดเกี่ยวยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ และอื่น ๆ โดยมุ่งเน้นไปยังบุคคลที่ทำหน้าที่ในการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินหรือฟอกเงินให้กลุ่มอาชญากรรม ซึ่งศูนย์คดียาเสพติดได้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษที่ 288/2565 โดยมีการจับกุมหัวหน้ากลุ่มขบวนการรายสำคัญไว้เมื่อปลายปี 2565 และได้ออกหมายเรียกบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องด้วยเส้นทางการเงินไปก่อนหน้านี้ โดยมีผู้บริหารกองสลากพลัส และอีกหลายกลุ่มนายทุนธุรกิจรวมอยู่ด้วยนั้น เพื่อเข้าให้การกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในสถานะพยาน ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 11 ม.ค.66 ที่ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 (ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ) ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. นายเอ (นามสมมติ) หัวหน้าขบวนการฟอกเงิน ได้เดินทางเข้าพบนายพงศธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อเข้าแจ้งเลื่อนหมายเรียกและรับทราบประเด็นสำหรับเข้าให้การในฐานะพยานในนัดหมายครั้งถัดไป อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายเอ (นามสมมติ) มีบทบาทเป็นหัวหน้าระดับสูงของขบวนการฟอกเงิน เนื่องจากพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานอันเชื่อได้ว่ามีหน้าที่บงการให้ขบวนการฟอกเงิน โอนเงินเข้าบัญชีของนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส

ต่อมาเวลา 12.00 น. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีและเปิดเผยกับสื่อมวลชนที่ปักหลักติดตามทำข่าว ว่า ความคืบหน้าทางคดีขบวนการฟอกเงินนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งคนที่เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในวันนี้ เป็น 1 ใน 7 ที่ดีเอสไอได้ออกหมายเรียกให้เข้ามาให้การในฐานะพยาน และทราบว่าวันนี้เขาเข้ามาเลื่อนหมายเรียกออกไปก่อน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรับทราบประเด็นเพื่อกลับไปเตรียมตัวและเตรียมเอกสาร

นายไตรยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า คณะทำงานได้มีการจัดทำข้อมูลแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ไว้ ซึ่งมีหลายกลุ่มที่มีการโอนเงินไปให้นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส รวมถึงพยานรายนี้เช่นกัน และพยานรายนี้อยู่ในกลุ่มที่ทำหน้าที่โอนเงินให้กับนายพันธ์ธวัช นับว่าเป็นตัวการสำคัญเบื้องหลังของขบวนการฟอกเงินที่ DSI จับกุมไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (9 ม.ค.66) มีการออกหมายเรียกอีก 4 ราย แต่จัดอยู่ในอีกกลุ่มหนึ่ง หากพบว่ากลุ่มไหนมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยก็ต้องขอเชิญมาชี้แจง เพื่อให้สิ้นกระแสความ ซึ่งขณะนี้ทุกคนยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

เมื่อถามถึงวันที่ 13 ม.ค.66 ซึ่งเป็นกำหนดเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษของนายพันธ์ธวัช จะมีการสอบถามในประเด็นใดนั้น นายไตรยฤทธิ์ เผยว่า ประเด็นที่จะถาม คือ รู้จักกับบุคคลที่โอนเงินมาให้หรือไม่ และมีความสัมพันธ์อย่างไร มีสัญญา มีข้อตอบแทนกันอย่างไรบ้าง และมีการทำลักษณะแบบนี้กี่ครั้ง ที่นอกเหนือจากพยานหลักฐานที่ปรากฏ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงนอกจากกรณีกองสลากพลัสแล้วยังมีธุรกิจเกี่ยวกับกองสลากอื่น ๆ อีกหรือไม่ นายไตรยฤทธิ์ ระบุว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเชิงลึกอยู่ ตอนนี้มีเค้าลาง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

สำหรับประเด็นสำนวนคดี Forex-3D นั้น นายไตรยฤทธิ์ ระบุว่า ขณะนี้สำนวนคดีอยู่ในชั้นของอัยการเรียบร้อยแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อส่งรายละเอียดให้กับอัยการตามที่มีประเด็นเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม คดีนี้เราสามารถสั่งฟ้องได้ภายใน 7 เดือนเท่านั้น ซึ่งเอกสารมีกว่า 2 แสนแผ่น ถือว่าพนักงานสอบสวนทำงานมีประสิทธิภาพมาก

เมื่อถามว่าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีความเห็นสั่งฟ้องทั้ง 16 ราย (ล็อตเดียวกับดีเจแมนและใบเตย) เลยหรือไม่ นายไตรยฤทธิ์ ระบุว่า อย่างไรขอกลับไปตรวจสอบก่อน ไม่อยากให้ข้อมูลมีความผิดเพี้ยน ซึ่งเดิมทีแรกเราได้มีการสั่งฟ้องไปหมดแล้ว แต่เมื่อพนักงานอัยการได้มีความเห็นให้ไปสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น พนักงานสอบสวนก็ต้องดำเนินการต่อเพื่อสรุปสำนวนให้ครบถ้วนต่อไป

ส่วนประเด็นที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้าร้องทุกข์กับหน่วยงานต่างๆถึงการทุจริตภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น นายไตรยฤทธิ์ เผยว่า หลายเรื่องที่ถูกร้องเรียน เราจะมีการประสานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีผู้ร้องไปส่งหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นกองบังคับการปราบปราม หรือ สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อทำความจริงให้กระจ่าง ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะเรื่อง "เบนท์ลีย์" สามารถตรวจสอบได้ และตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องแน่นอน หากใครมีเบาะแสข้อมูลสามารถนำมายื่นได้เลย ตนพร้อมลาออก อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอยุคนี้ตนจะทำให้โปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนมากที่สุด ส่วนเอกสารต่าง ๆ ที่หลุดรอดออกไปจากหน่วยงานก็จะต้องมีการตรวจสอบและดำเนินการอย่างจริงจัง

"ต้องขอบคุณประชาชนที่ช่วยเป็นหูเป็นตาตรวจสอบการทำงานของดีเอสไอ จากกรณีดังกล่าวทางดีเอสไอยินดีพร้อมให้คนที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบได้ทุกรูปแบบ และขอยืนยันว่าการที่มีการแอบอ้างยศตำแหน่งของตนในคืนวันเกิดเหตุว่า เคยเป็นอดีตตำรวจหรือยังดำรงตำแหน่งผู้บังคับระดับผู้บังคับบัญชา และเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น ขอชี้แจงว่าตนไม่ได้มาจากสายตำรวจ แต่จบมาทางด้านสายแพทย์ หากเรื่องดังกล่าวถูกตรวจสอบและสรุปว่าเป็นตนที่เข้าไปติดต่อขอช่วยเหลือทางด้านคดีให้กับคนขับขี่รถยนต์เบนท์ลีย์จริง ตนก็พร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่งทันที แต่หากพบว่ามีระดับผู้ใต้บังคับบัญชาของดีเอสไอเป็นคนแอบอ้าง จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน" นายไตรยฤทธิ์ ระบุ

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่กระแสข่าวที่ออกมาเหมือนเป็นการดิสเครดิตการทำงานของดีเอสไอ นายไตรยฤทธิ์ ระบุว่า ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะเราทำคดีสำคัญจำนวนมาก จึงเสียดายแทนที่จะร่วมมือกันให้ประเทศชาติ แต่พอเป็นเช่นนี้มันค่อนข้างเสียเวลาในการดำเนินการต่างๆ ซึ่งทรัพยากรบุคคลเราก็น้อย จึงอยากให้ทุกคนเข้ามาช่วยเหลือมากกว่า หากมีข้อติติงใดๆก็ขอให้แจ้งมาได้เลย อย่าปะสนเท่ห์

ขณะที่นายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด เผยว่า ภายหลังจากที่พยานปากสำคัญรายนี้ได้เข้าพบและรับทราบประเด็นเรียบร้อยแล้ว ได้มีการแจ้งนัดหมายขอเข้าให้การในฐานะพยานในวันที่ 19 ม.ค.แทน โดยจะมีการนำรายการเดินบัญชีมาชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน เพราะบุคคลรายนี้คือผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับนายพันธ์ธวัช หรือ นอท กองสลากพลัส ในเรื่องเส้นเงินกว่า 53 ล้านบาท ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ส่วนนายพันธ์ธวัช ยังคงมีกำหนดเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเช้นเดิม คือ วันที่ 13 ม.ค.66 เวลา 10.00 น. และภายในวันที่ 13 ม.ค.นั้น อาจจะมีการแถลงข่าวเพื่อให้สื่อมวลชนและสาธารณะได้รับทราบพร้อมกัน และคาดว่าอธิบดีดีเอสไอจะเดินทางมาร่วมติดตามการสอบปากคำด้วยตนเอง