ตร.เผยเสี่ยเบนท์ลีย์ยอมให้ตรวจเลือด แจงไม่เป่าเพราะเจ็บหน้าอก แรงลมการเป่าไม่เพียงพอ-กลัวเครื่องวัดไม่เสถียร ยืนยันตำรวจทำงานโปร่งใส และให้ความเป็นธรรม

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ดูแลงานจราจร เปิดเผยว่า อุบัติเหตุเฉี่ยวชนบนทางด่วนเวลา 00.35 น. วันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ทีผู้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ เฉี่ยวชนรถ 2 คัน มีผู้บาดเจ็บ 8 คน ออกจากโรงพยาบาล 5 คน พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 คน ต้องรอผลการตรวจสอบบาดแผลจากทางแพทย์ว่ามีอาการบาดเจ็บสาหัสหรือไม่

ส่วนการดำเนินคดีนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาขับรถเฉี่ยวชนผู้อื่นเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและได้รับบาดเจ็บ ส่วนข้อหาเพิ่มเติมนั้น ทางพนักงานสอบสวนรอผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติดจากทางโรงพยาบาลตำรวจคาดว่าจะได้ภายในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 10 ม.ค.)

นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับการใช้ความเร็วรถ หากตรวจสอบพบกระทำความผิดก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งในเรื่องนี้พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

เมื่อถามถึงกรณีผู้ต้องหาปฏิเสธการใช้เครื่องเมือวัดแอลกอฮอล์เปล่าเมานั้น พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทางผู้ขับขี่รถเบนท์ลีย์ยินยอมให้ตรวจเลือดว่ามีแอลกอฮอล์หรือไม่ ซึ่งกรณีดังกล่าวเกิดกรณีเฉี่ยวชนผู้ขับขี่ดังกล่าวได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก อาจจะทำให้แรงลมการเป่าไม่เพียงพอทำให้เครื่องวัดไม่เสถียร ทางพนักงานสอบสวนจึงใช้วิธีการตรวจเลือดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวมีความเสียหายค่อนข้างมากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย การตรวจผลเลือดจึงเป็นส่วนที่ยืนยันได้ชัดเจนกรณีผู้ต้องหาอาจจะใช้ต่อสู้กรณีดังกล่าว จึงมีการดำเนินการอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความโปร่งให้ผลการตรวจดังกล่าวยืนยันในชั้นศาลได้ชัดเจน

เมื่อถามว่าการตรวจสอบป้ายทะเบียนเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลการกระทำเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีรถที่ใช้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด

ถามต่อว่าผู้ขับขี่ได้ตรวจเข้ารับการตรวจเลือดช่วง เวลาประมาณ 05.00 น. นั้น ระหว่างเกิดเหตุใช้เวลาชั่วโมงเศษพาตัวผู้ต้องหาไปที่รพ.ตำรวจ อาจต้องประสานงานรพ.ตำรวจมีการตรวจเลือดล่าช้าหรือไม่ แต่ยืนยันว่าผลของแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดโดยหลักจะอยู่ได้ค่อนข้างนาน ทั้งนี้ กฎหมายมีการพิจารณาการตรวจวัดแอลกอฮอล์ไม่ยินยอมให้ตรวจให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้ที่ขับขี่รถในขณะเมาสุรา แต่กรณีดังกล่าวเป็นการยินยอมให้ตรวจ อย่างไรก็ตาม กรณีการตัดแต้มดังกล่าวหากเมาและขับจะถูกตัดคะแนนจำนวน 4 คะแนน ถือว่าเป็นกรณีการตัดคะแนนมากที่สุด

เมื่อถามถึงประเด็นที่จะหลบหนีขึ้นรถแท็กซี่จากที่เกิดเหตุนั้น พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ได้มีการสั่งการให้ทางกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่ามีพฤติการณ์จะหลบหนีหรือไม่ ส่วนกรณีลักษณะดังกล่าวข้อกฎหมายที่เกิดเหตุรถเฉี่ยวชนมีข้อกฎหมายต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ หากเฉี่ยวชนและหลบหนีเป็นความผิด ส่วนการกรณีรถเบนท์ลีย์ขับขี่รถไปที่ใดมาก่อนหรือไม่ เป็นเรื่องทางคดีขอสงวนเอาไว้ก่อน แต่ต้องมีการสอบปากคำในประเด็นดังกล่าว