ไม่ได้รับความเป็นธรรม !! หนุ่มร้องพ่อถูกรถเก๋งพุ่งชนตาย แต่ตำรวจกลับให้เป็นฝ่ายผิด

จากกรณีที่มีหนุ่มรายหนึ่งโพสต์คลิปเหตุการณ์วงจรปิดขณะที่พ่อของตนเองถูกรถยนต์พุ่งชน ขณะกำลังจะเข้าภายในปั๊มน้ำมันตรงข้ามตลาดบางแคภิรมย์ ถนนบางบอน 3 เหตุเกิดช่วงเวลา 04:00 น. ของเช้าวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา และระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทางพนักงานสอบสวนที่มีการแจ้งว่าบิดาของตนเองขับขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวตัดหน้ารถคู่กรณี โดยไม่มีการเปิดไฟเลี้ยว จนเป็นเหตุให้คู่กรณีพุ่งชนจนบิดาตนเองเสียชีวิต

 

27 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายว่าได้ลงพื้นที่ ไปพบกับนายธวัชชัย แซ่จัง อายุ 28 ปี ผู้ โพสต์คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว และเป็นบุตรชายของนายสำราญ แซ่จัง ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ดังกล่าว ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลา 04:43 น. ของเช้าวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะนั้นเป็นเวลาที่บิดาของตนเองออกจากบ้านพักเพื่อจะเตรียมไปเติมน้ำมันเพื่อมาใช้วิ่งวินรถจักรยานยนต์ตามปกติ จนมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีการเลี้ยวเข้าปั๊มแต่ถูกคู่กรณีพุ่งชนซึ่งในตอนแรก ตำรวจได้แจ้งกับตนเองว่าพ่อของตนเองเลี้ยวตัดหน้าโดยไม่เปิดไฟเลี้ยวทำให้คู่กรณีพุ่งชน ซึ่งตนเองก็เชื่อมาแบบนั้นโดยตลอด

 

ก่อนที่วันนี้หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของพ่อได้มาตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บริเวณจุดเกิดเหตุอีกครั้งก่อนจะพบว่าพ่อของตนเองมีการเปิดไฟเลี้ยวมาตามปกติ และได้เลี้ยวเข้ามาจนเกือบจะถึงบริเวณทางเข้าและคู่กรณีก็มีการขับขี่มาด้วยความเร็วในลักษณะคร่อมเลน และไม่มีการเบรคก่อนที่จะมีการชนพ่อตนเอง ซึ่งหลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนขึ้นไปบนเส้นทางก่อนถึงจุดเกิดเหตุก็พบว่าคู่กรณีมีการขับขี่แข่งมากับรถยนต์สีดำอีกคันหนึ่ง ที่ในวันเกิดเหตุก็จอดลงมาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ในภาพวงจรปิดก่อนถึงจุดเกิดเหตุจะเห็นได้ว่ารถยนต์ทั้งสองคันมีการขับแข่งกันด้วยความเร็วมาตลอดเส้นทางมีการแซงซ้ายรถที่อยู่บนถนน ก่อนที่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุรถยนต์สีดำได้ขับนำหน้าทิ้งห่างมา ก่อนที่รถคู่กรณีขับตามหลังมาและเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น อีกครั้งจากการไล่กล้องวงจรปิดของตนเองก็พบภาพของรถยนต์เก๋งทั้งสองคันขับขี่มาจากทางร่มไทรไม่ใช่มาจากตามเส้นทางที่ลงในบันทึกคดีของตำรวจ

 

ยืนยันว่า ตนเองต้องการเพียงให้คู่กรณี เข้ามาชดใช้ในเรื่องของการจัดพิธีกรรมทางศาสนาให้กับทางพ่อของตนเองกับเรื่องของงานบวชน้องชายที่จะบวชให้กับพ่อเพียงเท่านั้นไม่ได้มีความประสงค์จะมีการเรียกร้องเงิน เพราะตลอดกาลพูดคุยกันที่ผ่านมาคู่กรณีไม่เคยมีการพูดถึงว่าจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างไรแต่กลับให้ทางตนเองเป็นคนบอกว่าต้องการเรียกร้องค่าเสียหายเท่าใด ซึ่งตนเอง ไม่ได้มีการตั้งวงเงินไปเพราะต้องการเพียงให้คู่กรณีเข้ามาชดใช้ตามที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น และคู่กรณียังให้มีการประสานผ่านทางทนายความ ตนเองจึงไม่แน่ใจว่าในคดีนี้จะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่จึงตัดสินใจนำคลิปหลักฐานดังกล่าวทั้งหมดโพสต์ลงโซเชียลเพื่อขอความเป็นธรรม

 

โดยตนเองอยากขอให้ทางตำรวจทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาและมีความชัดเจนว่าใครเป็นคนผิดเพราะข้อมูลที่ตำรวจพูดกับตนเองในวันที่ลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุบอกแต่เพียงว่าพ่อของตนเองเลี้ยวตัดหน้าและไม่เปิดไฟเลี้ยวซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่พ่อตนเองมีการชะลอรถและเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซึ่งในวงจรปิดจะเห็นว่าแจ๊สสีดำคันที่แข่งมากับคู่กรณี ได้ขับขี่ผ่านหน้ารถพ่อตนเองไปก่อนเมื่อ และพ่อของตนเองเลี้ยวตรงช่องว่างเพราะคิดว่าไปได้ แต่ก็มาถูกชนบริเวณทางเกือบเข้าปั๊มน้ำมัน

 

ส่วนทางคู่กรณีตนเองก็อยากให้ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ด้านพันตำรวจเอกอภิชาติ ทองจันดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหนองแขม ระบุว่า ในเรื่องของคดีดังกล่าวขณะนี้พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เกี่ยวกับกล้องวงจรปิดทั้งหมด ยืนยันตำรวจทำตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหมดไม่มีการเข้าข้างฝ่ายใดและไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ส่วนกรณี รถยนต์ของคู่กรณีที่ชนรถจักรยานยนต์ ตนเองยังไม่ทราบว่าขณะนี้ดำเนินการไปถึง ไหนแล้วแต่ตนเองเคยกำชับตำรวจทุกคนว่าหากมีคดีจราจรให้เร่งรัดในการเคลียร์รถในพื้นที่สน. เพราะสน. มีพื้นที่จำกัด โดยขั้นตอนรถที่เกิดอุบัติเหตุจะมีทางฝ่ายจราจรเข้ามาทำการตรวจสอบร่องรอยการชน ซึ่งหากมีการตรวจสอบเสร็จเป็นที่เรียบร้อยก็จะมีการคืนให้กับทางเจ้าของรถไปดำเนินการซ่อมแซม

 

ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสงสัยว่ามีการขับขี่แข่งขันในทางหรือไม่ต้องดูพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิดก่อนถึงจุดเกิดเหตุอีกครั้งขณะนี้ยังคงไม่สามารถตอบได้