หน.รปภ. แค้นฝ่ายหญิงแยกทาง มาดักรอยิงที่หน้าบ้าน ขณะฝ่ายหญิงจะออกไปทำบุญวันเกิดจนเสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองด้วยปืนกระบอกเดียวกัน พร้อมทิ้งจดหมายตั้งใจยิงดับในวันเกิด

วันที่ 25 ธันวาคม 2565 ร.ต.ท.พงศธร แลเลิศ รองสารวัตร สอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต รับแจ้งมีเหตุยิงกันตาย 2 ศพ หน้าบ้านหลังหนึ่งในซอยมะนาว (ถนนเลียบทางรถไฟ) ม.2 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น หน้าบ้านมีรถยนต์เก๋ง 2 คันจอดประกบกันอยู่ โดยที่รถยนต์คันแรกโตโยต้าวีออส เปิดประตูฝั่งคนขับและสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ บริเวณด้านท้ายรถซึ่งเป็นช่วงประตูหน้าบ้านพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนทราบชื่อคือ นายนิรันด์ อายุ 52 ปี อาชีพหัวหน้า รปภ. ของบริษัทแห่งหนึ่ง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ปาก คมกระสุนทะลุหลังศีรษะเป็นเหตุให้เสียชีวิต และอีกราย น.ส.วชรนันท์ หรือน้อย อายุ 43 ปี อาชีพที่ปรึกษาฝ่ายขายรถยนต์ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าผาก หน้าอก และต้นขา 2 ข้างรวม 4 นัด เป็นเหตุให้เสียชีวิต ข้างกันยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวน 8 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่บนลำตัวของผู้เสียชีวิตที่เป็นชายพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. วางอยู่โดยที่นิ้วยังอยู่ในโก่งไก และในลำเลื่อนมีปลอกกระสุนปืนคาอยู่ 1 ปลอก และในแม็กกาซีนพบกระสุนปืนพร้อมใช้อยู่อีก 6 นัด นอกจากนี้ ยังมีผู้รอดชีวิตอีก 1 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งไม่ถูกกระสุน ทราบชื่อเล่นว่า นิค อายุ 30 ปีเศษ

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีออส พบเอกสารทะเบียนปืน สมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารที่ทางราชการออกให้ของนายนิรันด์ อยู่ภายในกระเป๋าหนังสือดำภายในรถ และยังพบสมุดเขียนข้อความระบุว่า "ขอโทษสังคมด้วยที่ทำรุนแรง 25/12/65 ผู้หญิงคนนี้รักมากอยู่กันมา 12 ปี ตั้งแต่เสริมจมูกมาเธอเปลี่ยนไป ยังพูดดูถูกผัวตลอด ฆ่าได้หยามไม่ได้ น้อย (ลงชื่อ) นิรันด์ สมควรตายวันเกิดวันตายวันเดียวกัน" เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบ

นายปราโมทย์ อายุ 62 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ขณะเกิดเหตุตนเองจะขี่ จยย. ผ่านในเส้นทางเพื่อไปทำงาน พบผู้ตายเปิดประตูลงมาจากรถยนต์โตโยต้าวีออส โดยที่ท้ายรถมีผู้หญิงที่ตายยืนอยู่ โดยในมือผู้ชายมีอาวุธปืนและยิงใส่ฝ่ายหญิงทันที จากนั้นฝ่ายหญิงพยายามวิ่งหนี ฝ่ายชายได้ยิงซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะมีหญิงอีกคนลงมาจากรถยนต์ยี่ห้อมาสด้าแล้ววิ่งหนี ชายที่ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ทันทีแต่ไม่โดน ก่อนที่ชายดังกล่าวจะนำอาวุธปืนมาไว้ที่ขมับตนเองและเดินไปยิงซ้ำฝ่ายหญิงที่ล้มฟุบลงไปแล้วอีกครั้ง จากนั้นชายที่ก่อเหตุได้โบกมือให้ตนเองวิ่งหนีไป ตนเองจึงวิ่งหนีโดยที่รถจยย.ของตนเองล้มคว่ำอยู่ ก่อนที่ชายดังกล่าวจะใช้อาวุธปืนยิงกรอกปากตนเองจนเสียชีวิต โดยตอนเกิดเหตุรถยนต์ทั้งสองคันจอดประกบกันอยู่

ทางด้าน น.ส.เกวรินทร์ สาธิมา อายุ 52ปี ซึ่งเป็นน้าของฝ่ายหญิงที่ตายให้การว่า ผู้ตายทั้งสองเคยเป็นแฟนกันคบหากันมานานและมีปากเสียงกัน จนแยกทางกันอยู่ประมาณ 3-4 เดือนแล้ว เพราะปัญหามาจากเรื่องเงินๆ ทองๆ โดยฝ่ายชายไปอยู่กับลูก ส่วนหลานตนเองได้มาอยู่กับตน ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดและเป็นวันเกิดของหลานจึงนั่งเคลียร์งานของบริษัทอยู่บนบ้าน โดยหลานจะออกไปทำสังฆทานในวันเกิด ซึ่งที่หลานมาอยู่บ้านตนเองเพราะแม่ของหลานเป็นห่วงกลัวฝ่ายชายจะตามไปรังควาญ เพราะเคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งจนต้องเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คลองหลวง ครั้งหนึ่งแล้ว

โดยตอนเกิดเหตุตนเองเพิ่งทำงานเสร็จและกำลังจะขึ้นไปนอน จึงไลน์ไปบอกหลานสาวที่อยู่ในห้องว่า ออกไปแล้วให้ล็อกประตูด้วย จากนั้นหลานสาวได้ออกไปเพื่อจะขับรถเก๋งโตโยต้าวีออสออก คาดว่าจะไปจอดอีกที่หนึ่งเพื่อหลบแดด และเป็นจังหวะเดียวกับที่เพื่อนหญิงคนสนิทอีกคนขับรถยนต์มาสด้าสองมาจอดเพื่อรับออกไปทำบุญ และเป็นจังหวะกับที่ฝ่ายชายนำกุญแจรถสำรองอีกดอกหนึ่งมาสตาร์ทเครื่องนั่งรออยู่แล้ว เมื่อเห็นฝ่ายหญิงเดินมาจึงเปิดประตูรถออกมาใช้อาวุธปืนยิงใส่ทันที เพื่อนสนิทที่กำลังมารับเห็นเหตุการณ์เพราะรถจอดข้างกันจึงรีบเปิดประตูรถยนต์อีกคันวิ่งหนีสุดชีวิต แล้วฝ่ายชายก็ยิงซ้ำและฆ่าตัวตายตามในเวลาต่อมา

ทางด้าน ร.ต.ท.พงศธร เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ และให้แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานอย่างละเอียดเพื่อประกอบคดี พร้อมให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสต ร์รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง