แม่และยายทวด วอนขอผู้ใจบุญที่มีเครื่องช่วยหายใจที่เหลือเก็บ ให้ยืมใช้กับน้องเบเน่วัย 4 ขวบที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงระยะสุดท้าย รักษา 2 เดือนไม่ดีขึ้น หมอให้กลับบ้าน แต่ถ้าจะยื้อชีวตต้องหาเครื่องช่วยหายใจ เพราะโรงพยาบาลมีไม่พอ ซื้อเองต้องใช้เงินกว่า 2 แสน แต่ครอบครัวยากจน

วันที่ 27 พ.ย. 2565 น.ส.สายชล หรือน้ำ อายุ 22 ปี ได้โพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือ ว่าอยากจะหาผู้ใจบุญที่พอมีเครื่องช่วยหายใจเก่าเหลือใช้ ขอยืมมาใช้ให้กับลูกสาววัย 4 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Spinal Muscular Atrophy : SMA) ขั้นรุนแรง

ผู้สื่อข่าวไปพบ น.ส.สายชล ที่บ้านพัก ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า ตนได้แยกทางกับสามีเมื่อกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นลูกสาวคือ น้องเบเน่ อายุได้ประมาณ 6 เดือน และเริ่มมีอาการผิดปกติตอนอายุได้ 11 เดือน คือมีอาการอ่อนแร่ง ไม่ตั้งไข่เหมือนเด็กทั่วไป

ต่อมาตนได้ออกไปทำงานที่กรุงเพทฯ แล้วส่งเงินมาให้ตากับยายที่เลี้ยงลูกสาวไว้ โดย 2-3 เดือนจึงจะกลับมาเยี่ยมลูกสาว เมื่อลูกอายุได้ 2 ปี อาการเริ่มชัดขึ้น ลูกสาวไม่ก้าวเดิน จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ กระทั่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา เพื่อหาสาเหตุ สุดท้ายหมอระบุว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง นอนอยู่โรงพยาบาลมหาราช นานกว่า 2 เดือน แล้วกลับมาพักที่บ้านรักษาไปตามอาการ แล้วให้ตาทวดกับยายทวดเลี้ยงไว้เหมือนเดิม ส่วนตนไปทำงานที่กรุงเทพฯ ต่อ จนเมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา แม่ได้โทรไปบอกว่า น้องมีอาการผิดปกติอีก จึงเดินทางกลับมาพบว่า มีอาการทรุดลงเรื่อยๆ

ต่อมา ต้องมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ หมอระบุว่า เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงระยะรุนแรง เมื่อใช้เครื่องช่วยหายใจอาการต่างๆ เช่น อาการปอดที่ติดเชื้อก็จะหายไป อาการไข้ก็จะหายไป

แพทย์ระบุว่า หลังจากนี้อาจจะต้องเจาะคอเด็ก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ สุดท้ายหมอแจ้งว่า เด็กจะต้องรักษาแบบนี้ตลอดไป แต่ถ้าอยากจะให้ลูกสาวกลับไปรักษาต่อที่บ้าน จะต้องมีเครื่องช่วยหายใจ ไฟสำรอง เครื่องดูดเสมหะ และออกซิเจน แต่ทั้งหมดตนไม่มีปัญญาจะหาซื้อมาได้ เพราะรวมแล้วคิดเป็นเงินกว่า 200,000 บาท

ตอนนี้อยากจะให้ลูกสาวกลับมารักษาที่บ้าน เพราะไม่อยากให้เป็นภาระของแพทย์ รวมถึงค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทางมาเฝ้าลูกสาวที่ต้องจ่ายทุกวันแต่ไม่ได้ทำงาน ใช้เงินคนชราของตากับยายมาเป็นค่าเดินทางทุกวัน จึงอยากจะร้องขอให้ผู้ใจบุญที่มีอุปกรณ์ดังกล่าวที่เหลือใช้เหลือเก็บ มาให้ตนยืมไปใช้ก่อนจนกว่าลูกสาวจะหมดบุญแล้วจะส่งคืนให้

ด้านนางจุรีย์ คอนรัมย์ อายุ 67 ปี ยายทวดของน้องเบเน่ เล่าว่า ทราบข่าวเรื่องหลานแล้วตกใจ สงสาร เพราะตนเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ ถ้าจะให้ไปซื้อเครื่องช่วยหายใจคงไม่มีปัญญา จึงอยากให้ผู้ที่มีกำลังมาช่วยเหลือด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อให้หลานตัวเองใช้ชีวิตอยู่ต่อให้นานที่สุด