หลานเนรคุณคลั่งยา! ยายไม่อยู่เผาบ้านวอดทั้งหลัง ทำให้ 5 ชีวิตไร้ที่อยู่

วันที่ 15 พ.ย. 2565 นายอนุรักษ์ แก้ววงษ์ ปลัดอำเภอวังชิ้น จ.แพร่ , นายกฤศ สินทะมณี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าสัก , นายพงค์รัตน์ ศรีเรือง รองนายกฯ , จสอ.สุมิตร ต๊ะวัน เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับ นายวันชัย ติ๊บแก้ว ผู้ใหญ่บ้านโป่งตื้ด หมู่ที่ 5 ต.ป่าสัก อ.วังชิ้น จ.แพร่ ลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.สรอย และ สพฐ.ตร.แพร่ เจ้าหน้าที่ ปภ.แพร่ เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 268/2 หมู่ที่ 5 บ้านโป่งตื้ด ต.ป่าสัก อ.วังชิ้น จ.แพร่ ของ นางจันทร์งาม พลายเอม อายุ 42 ปี ที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง ทำให้ 5 ชีวิตที่อาศัยอยู่ในบ้านไร้ที่อยู่อาศัย จึงจะได้ประสานหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อทำการช่วยเหลือในลำดับต่อไป

ทางด้าน ร.ต.อ.อนวัช แสนอินทร์ รองสารวัตรสอบสวน ทำหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.สรอย อ.วังชิ้น ได้รับแจ้งจาก นายวันชัย ติ๊บแก้ว ผู้ใหญ่บ้านโป่งตื้ด หมู่ที่ 5 ต.ป่าสักอ.วังชิ้น จ.แพร่ ว่าเกิดเหตุไฟไหม้บ้านเลขที่ 268/2 หมู่ที่ 5 บ้านโป่งตื้ด ต.ป่าสัก อ.วังชิ้น จ.แพร่ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.ท.กัณฑสิทธิ์ คงต่อ สวป.สภ.หนองม่วงไข่ รรท.สว.สภ.สรอย ทราบ ประสานรถดับเพลิง อบต.ป่าสัก อบต.แม่พุง และ อบต.สรอย ร่วมดับเพลิง

พบว่าไฟไหม้บ้านหลังดังกล่าวหมดทั้งหลังใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง พบว่าบ้านเสียหายทั้งหลัง และไฟได้ลามไหม้ไปบ้านของนายหวัน ซึ่งอยู่ข้างเคียงชาวบ้านต้องช่วยกันชนข้าวของหนีทำให้ฝาบ้านของนายหวันเสียหายสายไฟฟ้าละลายไม่สามารถอาศัยอยู่ได้

ต่อมา นายสุชานนท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ได้เข้ามามอบตัว พร้อมสารภาพว่า เป็นคนลงมือเผาบ้าน จึงควบคุมตัวไปทำการสอบสวน เบื้องต้นพบว่า มีอาการทางประสาท เนื่องจาก เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยขู่เผาบ้านมาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว จากการสอบสวนทราบว่า บ้านหลังนี้เมื่อก่อนมีคนอาศัยรวมกันทั้งนายสุชานนท์ 5 คน แต่ทนพฤติกรรมนายสุชานนท์ไม่ไหวต้องหนีไปอยู่กับญาติที่จ.พิจิตรรวมทั้งยายหนีไปเป็นคนสุดท้าย

จากการสอบสวนพบว่านายสุชานนท์ฯ เกี่ยวข้องกับยาเสพติดตั้งแต่ อายุ 12 ปี จนมีอาการจิตหลอนประสาท เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง จะเข้าทำการจับกุมมาแล้วหลายครั้ง แต่ ยาย ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กขอไว้ ว่าอย่าจับไปเลย เพราะสงสาร จนกระทั่งคืนนี้ ยายไม่อยู่บ้านไปหาลูกอีกคนที่ จ.พิจิตร นายสุชานนท์ฯ จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว ทำให้อีก 5 ชีวิต ที่อาศัยบ้านหลังนี้ ไม่มีที่อยู่ ส่วนค่าเสียหายประมาณ 5-6 แสนบาท