คลั่งรักเป็นเหตุ! รวบตัวหนุ่มบุกยิงครอบครัวเมีย พ่อตา-น้องเมีย ดับ หลังพ่อตาแม่ยายกีดกันรักมานานกว่า 10 ปี

วันที่ 15 ต.ค. 65 ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและทีมแพทย์เข้าไปชันสูตรศพภายในบ้านพักหลังหนึ่งในซอยเพชรเกษม 63 แยก 7 พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเป็นพ่อตาและน้องเมียของผู้ก่อเหตุ โดยเข้าไปกระหน่ำยิงภายในบ้านพักของครอบครัวเมีย หวังฆ่ายกครัว เพราะแค้นปมถูกกีดกันไม่ให้รักกับลูกสาว โดยผู้ก่อเหตุชื่อนายเป้ หรือ นายนที พันธุมแสย อายุ 28 ปี

ด้าน แม่ยาย ของผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิตเปิดเผย ว่า ในขณะที่ลูกเขยเข้ามาก่อเหตุนั้นตัวเองก็อยู่ในเหตุการณ์ และทราบดีว่าจริง ๆ แล้วลูกเขยตั้งใจมา เพราะผู้ก่อเหตุพยายามตามหา ตนเองจึงหลบหนีเข้าไปในห้องน้ำ ลูกเขยจึงพยายามกระหน่ำยิงเข้าไปสามนัด แต่ตนเองหลบได้ทันและเงียบไป จนทำให้ลูกเขยคิดว่าตนเองตายไปแล้ว

ส่วนสาเหตุที่ลูกเขยต้องมาก่อเหตุแบบนี้ เพราะมีเรื่องบาดหมางกันมาเนิ่นนาน ตั้งแต่ที่ทำไมนายเป้อายุ 18 ปีและลูกสาวอายุ 17 ปี ซึ่งตอนนั้นเรียนกันอยู่ ทั้งสองก็เริ่มคบหากัน แต่ทางครอบครัวไม่อยากให้ลูกสาวออกเรือนไปก่อนหรืออยู่กินกับนายเป้ จึงทำให้เกิดความโกรธแค้นตั้งแต่นั้น หลังเรียนจบทางครอบครัวก็ส่งลูกสาวไปอยู่ที่เกาะหมากนานกว่า 4 ปี เพื่อหวังให้ทั้งคู่เลิกรา แต่พอกลับมาอยู่ กรุงเทพฯ ก็มาคบหากับนายเป้อีก จนตั้งท้องและมีลูกด้วยกัน ตอนนี้ลูกชาย 4 ขวบแล้ว ทางครอบครัวจึงไม่กีดกันและไม่ยุ่งเกี่ยว ในฐานะคนเป็นแม่ก็ยังคิดถึงลูก จึงยังคงแอบติดต่อพูดคุยกัน พอนายเป้ทราบข่าว ก็จะโกรธและสั่งห้ามไม่ให้เมียติดต่อกับทางครอบครัวอีก จนล่าสุดเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นายเป้โทรมาหาแม่ยาย ข่มขู่ว่า เตรียมซื้อปืนจะมายิงให้ตายยกครัว

ทางแม่ยายจึงไปแจ้งความกับตำรวจไว้ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความให้ลงบันทึกประจำวันบอกว่าถ้าเกิดเหตุอะไรให้โทรมาหาตำรวจ ไม่นึกว่าจะโทรหาตำรวจ บอกให้มาเก็บศพในลักษณะแบบนี้

นอกจากนั้นยังมีกระแสข่าวอีกว่า หลังในเป้ก่อเหตุมายิงครอบครัวของเมียตัวเองแล้วยังมีการพูดกับคนละแวกนั้นบอกว่า จะกลับไปยิงเมียและลูกของตัวเองอีกด้วย ซึ่งขณะนี้เมียของตัวเองตั้งท้องลูกคนที่สองอายุครรภ์ 7 เดือนแล้ว

ล่าสุดทางผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ออกมาเปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตอนนี้ตำรวจสามารถควบคุมตัวนายเป้ได้แล้ว อยู่ระหว่างการควบคุมตัวนายเป้มาสอบปากคำถึงมูลเหตุที่แท้จริงที่สถานีตำรวจเพชรเกษม

ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังก่อเหตุที่บ้านพักหลังดังกล่าว คนร้ายได้ขับรถจักรยายนต์คันเกิดเหตุ ตระเวนไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียง เพื่อดูว่าญาติ ๆ จะนำร่างผู้เสียชีวิต มาส่งโรงพยาบาลหรือไม่ หลังจากนั้นได้ขับรถคันเดิมวนกลับมาที่ศาลาริมน้ำของวัดม่วง ซึ่งอยู่ตรงข้าม สน.เพชรเกษม เพื่อมาซุ่มดูว่าทางญาติของผู้ตายจะเดินทางมาที่ สน.หรือไม่ เพื่อหวังจะก่อเหตุยิงคนในครอบครัวตามที่ได้ข่มขู่ไว้