“เพื่อไทย” ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลแก้น้ำท่วมเร่งด่วนฉุกเฉินแบบ”ภาวะวิกฤต” วอนปรับกฎเหล็ก 180 วัน กกต. เปิดทางภาคท้องถิ่นช่วย ประชาชน

 

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ เรื่อง การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศประสบภัยพิบัติน้ำท่วม ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งระบบสาธารณูปโภค การคมนาคม และความเสียหายต่อบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่ทำกินในหลายพื้นที่อย่างกว้างขวาง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างรุนแรง และประสบความยากลำบากในการดำรงชีวิต ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ตระหนักถึงวิกฤตปัญหาดังกล่าว พรรคเพื่อไทยจึงออกแถลงการณ์มาเพื่อเรียกร้องทั้งรัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการ ใน 2 เรื่อง คือ

 

1.เรียกร้องให้รัฐบาลได้ถือว่าปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในครั้งนี้ที่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง และต้องถือว่ากรณีนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนจำเป็นฉุกเฉิน จึงต้องบริหารแบบสถานการณ์พิเศษ มิใช่บริหารแบบสภาพการณ์ปกติทั่วไป จะต้องระดมสรรพกำลังเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง และทันท่วงที โดยต้องมีมาตรการให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า และมาตรการเยียวยาในระยะต่อไปอย่างชัดเจน

 

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์รับน้ำท่วมในปี 2554  ซึ่งได้กำหนดมาตรการไว้อย่างมีแบบแผน เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ พบว่ามีปัญหาใน 7 เรื่องสำคัญ คือ การเตือนภัย น้ำท่วมครั้งนี้มีปัญหาเรื่องการเตือนภัยให้กับพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เพราะคาดไม่ถึงว่าน้ำท่วมจะรุนแรง จนรับมือไม่ได้ เช่น อุบลราชธานี ซึ่งตนเองได้ลงพื้นที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าปริมาณน้ำท่วมมีความรุนแรงใกล้เคียงกับปี 2562 และ ณ วันนี้รุนแรงกว่าปี 2562 เนื่องจากอุบลราชธานีเป็นจังหวัดรับน้ำก่อนลงสู่แม่น้ำโขง ครั้งนี้ปริมาณน้ำเข้าสู่พื้นที่อย่างรวดเร็ว ทำให้ประชาชนเก็บข้าวของไม่ทัน จากระบบการเตือนภัยของรัฐบาลที่ขาดการใส่ใจจากหลายฝ่าย การออกคำเตือนล่าช้า มาตรการไม่มีความพร้อม

 

ในสถานการณ์น้ำท่วมปี 2554 รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วางแผนเตรียมการไว้  โดยประเมินการรับมือในระดับเลวร้ายที่สุด (worst case scenario) เตรียมมาตรการรองรับเอาไว้ หากไม่เกิดขึ้น ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเตรียมการ

รัฐบาลต้องบริหารจัดการภายใต้สถานการณ์ภาวะเสี่ยง มาบริหารประเทศในขณะนี้  ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ   

วางระบบในการบริหารจัดการ โดยหน่วยดูแล บัญชาการ ปฏิบัติการชัดเจน ครอบคลุมระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นไปอย่างชัดเจน

การบริหารสถานการณ์น้ำท่วม ต้องไม่นำระเบียบเดียวกันมาบังคับเหมือนกันทั่วประเทศ ต้องดูรายพื้นที่ เช่น พื้นที่น้ำท่วมถาวร พื้นที่น้ำท่วมทุกปี พื้นที่น้ำท่วมขังนาน เป็นต้น แต่ละพื้นที่ต้องมีวิธีการจัดการที่แตกต่างกัน โดยการกำหนดพื้นที่ให้ชัดเจนว่าจะกำหนดมาตรการอย่างไร โดยเฉพาะพื้นที่ที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน 

ต้องให้ความสำคัญกับภาคท้องถิ่นซึ่งมีความใกล้ชิดพี่น้องประชาชนมากที่สุดเข้ามาแก้ปัญหา รวมทั้งภาคส่วนเอกชน อาสาสมัครต่างๆ

 

2.ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้พิจารณากำหนดเงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติ ปรับปรุงระเบียบให้พรรคการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้แทนของปวงชนสามารถเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ แม้จะอยู่ในช่วงระยะของ 180 วัน ก่อนวันครบอายุสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องถือปฏิบัติตามกฎหมาย และเป็นระเบียบว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงก็ตาม เพื่อมิให้ระเบียบ หรือข้อห้ามต่างๆ เป็นอุปสรรคในการจำกัดหรือทำให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนซึ่งกำลังเดือดร้อนอย่างสาหัสอยู่ในขณะนี้ 

พร้อมขอให้รัฐบาลนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการเตือนภัยล่วงหน้า ป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นจะดีกว่า อย่าหันกลับไปใช้ทรานซิสเตอร์อีกเลย เพราะนอกจากไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังเป็นภาระที่ประชาชนจะต้องจัดหาเงินมาจัดซื้ออีก

ในช่วงท้าย นายแพทย์ชลน่านยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า เป็นการตื่นตัวช้าตามปกติวิสัยของพลเอกประยุทธ์ ตนไม่คาดการณ์ว่าเร็วกว่านี้ แต่เรื่องอื่นเร็วโดยเฉพาะอารมณ์กับประชาชน ต้องไปไหว้พระพรหมก่อนถึงจะแก้ปัญหาได้ นี่คือการทำงานของผู้นำประเทศที่เราเรียกว่านายกรัฐมนตรี