"ต่อ ธนภพ" เปิดใจ หลังถูกแฟนคลับคู่จิ้นไล่ออกจากเฟรมถ่ายรูป ยอมรับว่าได้คุยกับ "ซี-นุนิว" แล้ว ส่วนตัวไม่ได้ติดใจอะไร

 

พอทำงานเยอะ ๆ กลัวมีผลต่อสุขภาพบ้างไหม?
-อย่างวันนี้ก็เกิดต่อมไขมันอักเสบในตา อาจจะเกิดจากการพักผ่อนน้อย แล้วก็เดินสายออกงานเยอะ วิธีการรักษาก็กินยา หายามาหยอด ทุกคนคงเคยเป็นอยู่แล้วหรือเปล่า ผมคิดว่าทุกคนเคยเป็นนะ แบบว่าน่าจะเกิดจากอาการนอนน้อย

ในอนาคตมันจะมีความรุนแรงหรืออันตรายไหม?
-ในอนาคตอันตรายไหมอันนี้ไม่แน่ใจ เดี๋ยวผมเข้าไปหาข้อมูลก่อน ถ้ามันไม่ไหวจะมาอัปเดตอีกทีนะครับ

เปิดใจหลังเกิดดรามาโดนแฟนคลับคู่จิ้นไล่ออกจากเฟรมถ่ายรูป?
-จริง ๆ ผมไม่เห็นทั้งหมดหรอก ผมก็เห็นเท่าที่คนดูแลหรือคนรอบตัวส่งมาให้ดู

วันนั้นรู้สึกยังไงบ้างกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น?
-คือผมรู้สึกว่าผมพยายามทำความเข้าใจพวกเขาอยู่นะ ผมไม่ได้โกรธนะ ผมไม่ชอบทะเลาะกับใคร แล้วคือวันนั้นผมก็กำลังเล่นกับแฟนคลับทุกคนอยู่ และมันเป็นงานรวมเราก็คงหาไม่เจอหรอกว่าใครอยู่ตรงไหนบ้าง ก็พยายามจะเล่นรวมๆ แล้วเรารู้สึกว่าเราได้ยินเสียงแฟนคลับเราเรียก ก็เลยทำท่าเหมือนเอ๊ะอะไรนะ แต่ภาพตอนที่เราโดนเขาบอกให้เราขยับ เราก็ไม่ได้ยินชัดขนาดนั้นว่าครับ ว่าเขาพูดอะไร แต่เราอยู่กับน้องบลู (บลู พงศ์ทิวัตถ์) น้องก็เลยคอยๆ กระซิบบอกว่าพี่ผมได้ยินเสียงครับ แต่ว่าเรากำลัง concentrate แฟน ๆ อยู่ ซึ่งเรามันจะสังเกตมาจากข้างหลังก่อน ที่เขาอาจจะไม่เห็นเรา ก็พยายามขยับและทำความเข้าใจ เราไม่อยากโกรธกัน เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์รักศิลปินของตัวเอง ขนาดเรายังอยากถูกรักเลย ก็เลยพยายามเข้าใจพวกเขานะครับ เพราะตอนแรกเราก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้

ตอนที่เราได้ยินว่าให้ขยับออกมารู้สึกยังไงบ้าง?
- (แฟนๆ กลัวว่าเราจะไม่โอเค) จริงๆ แค่เป็นห่วงเขาส่วนเราก็โอเค แล้วผมก็พยายามคิดอะไรหลายมุม ไม่อยากคิดในด้านเดียว ไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองใจแคบ เพราะอย่างที่บอกเราไม่ได้ชอบทะเลาะหรือมีปัญหากับใคร

ในวันนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงยังไง คำรุนแรงไหม?
-ก็เรียกว่าก็มี feeling นะครับ แต่ก็ไม่ใช่ feeling ที่เราได้รับมาขนาดนั้นว่าเหมือนเขาว่าเราอยู่ เพราะว่าเวลาทำอะไรอยู่ต่อหน้าแฟนคลับแต่ละคนนะ อย่างเวลาเราโดนคนน่ารักใส่เราจะไม่ได้คิดอะไร เพราะมันเป็นโมเมนต์น่ารักอยู่ตอนนั้น

ได้คุยกับ "บลู" หรือ "ซี-นุนิว" แล้วหรือยังหลังเกิดเรื่องดรามา?
-จริง ๆ ยังไม่ได้คุยกับน้องบลูเลย แต่มีโอกาสได้คุยโทรศัพท์กับทาง "ซี-นุนิว" แล้ว (เขาว่ายังไงบ้าง) คือวันนั้นเราพูดกับเขาว่า แค่นึกถึงเราก็ดีใจแล้ว เพราะเอาจริง ๆ เราพยายามไม่ไปคิดเล็กคิดน้อย และเราก็เหมือนเพื่อนร่วมอาชีพกัน อย่างเรากับพี่ซีไม่ใช่คนไม่รู้จักกัน เพราะเราก็เคยเหมือนเจอกันมาก่อน รู้จักจากพี่ ๆ ในวงการ พี่ช่างแต่งหน้า

เขาพูดอะไรกับเราบ้าง ขอโทษเราเลยหรือเปล่า?
-คือพี่เขาไม่สบายใจ เท่าที่ผมเข้าใจนะ เพราะช่วงเวลาที่เขาโทรมาผมอยู่ใต้ดินและสัญญาณมันไม่ดี ผมก็พยายามฟังเท่าที่จะรับรู้ได้ ก็รู้สึกว่าวันที่เราเจอกันพวกเขาก็น่ารักกับผมนะ

อย่าง ณ วันนี้เอง เรายังมีความรู้สึกโกรธหรือว่ายังไงกับทั้งคู่บ้าง?
-มันงงมากกว่าพี่ เพราะผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์แล้วกัน มันสอนให้เรารู้ว่าเราไม่ใช่แค่เราต้องเข้าใจ แต่มันสอนให้เรารู้ว่าเราจะได้ทำตัวถูกในเวลาเจอแบบนี้ ให้ถูกจังหวะถูกเวลา

Action หลังเห็น #ไล่ศิลปินคนอื่นทำไม ในโซเชียล รู้สึกยังไงบ้าง?
-คือผมก็ไม่ได้อ่านขนาดนั้น แต่ผมได้ยินก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่น้อยเลย มันมีปริมาณที่เยอะมาก ผมไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี แต่ใครที่รู้สึกดีกับผมก็ขอบคุณทั้งหมดเลย เพราะผมไม่ได้มานั่งคิดไม่ดีกับใคร ก็เลยเลือกมากกว่าเลือกเก็บแต่ความรู้สึกที่ดี พลังงานที่ดี เพราะผมยังต้องมีวันพรุ่งนี้ต่อ ๆ ไป

เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้จนทำให้รู้สึกแย่ไหม?
-ส่วนใหญ่มาจากตัวเองครับ หมายถึงแบบเช่นเวลาออกงานแล้วลืมพูดอย่างนั้นอย่างนี้ เรียกว่านอยด์ไปเลย บางที 3 วันอย่างต่ำ ถ้ายิ่งแบบว่าพี่ผู้จัดการบอกว่าวันนี้พลาดอันนี้ไปนะ ในใจเรารู้สึกไม่โอเค และคือห่อเหี่ยวเลย (หัวเราะ)

แต่โดยรวมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนใช่ไหม?
-คือจะบอกว่าเรื่องเนี่ย ผมไม่เคยคิดมากเลย คือต้องบอกว่าทุกคนผิดได้ มันไม่มีใครถูกตลอดเวลา ขนาดตัวผมเองผมก็ผิดอยู่ทุกวัน

ในการเป็นศิลปินแล้ว การเซอร์วิสแฟนคลับมันต้องเป็นยังไง?
-ผมไม่เคยนะครับ ก็เลยไม่รู้ คือสำหรับผมแฟนคลับเขาเหมือนเป็นครอบครัวเรา เลยคิดว่าพวกเขาเป็นแบบนั้นมากกว่า ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันเรียกว่าเซอร์วิสหรือยัง แต่เราแค่ทำให้มันดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามให้เขารู้สึกว่าพวกเขามีคุณค่า ไม่ได้ให้เขาคิดว่าเขามาทำไม เวลามารอเจอเรา