เจ้าของตึกในเหตุการณ์ไฟไหม้สำเพ็ง จ่อฟ้องการไฟฟ้านครหลวง หลังหม้อแปลงระเบิดวอดหลายคูหา มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เผยเคยแจ้งให้มาซ่อมแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไข จนเกิดความเสียหายในวันนี้

 

วันที่ 26 มิ.ย.65 สืบเนื่องจากกรณีเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ใกล้เคียงตลาดสำเพ็ง โดยเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในตัวอาคารมีพลาสติกจำนวนมากซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงกว่า 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ โดยสาเหตุมาจากหม้อแปลงระเบิดจนลุกลามไปกว่า 4 คูหา หลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในตัวอาคารพบผู้เสียชีวิตทั้งหมด 2 ราย และบาดเจ็บ 9 ราย

ทั้งนี้ นายสุชาติ กิตติฤดีกุล เจ้าของตึก กล่าวว่า หม้อแปลงนี้เคยระเบิดมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ได้แจ้งการไฟฟ้าฯ ไปก็มาซ่อมแต่ก็ไม่เห็นทำอะไร จนวันนี้มันระเบิดเป็นปัญหาซ้ำซาก ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก คาดการณ์มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากร้านนี้เปิดมา 6 ปี เป็นสาขาที่ 4 แล้ว เบื้องต้นมีการทำประกันอัคคีภัยเอาไว้ คาดว่าจะฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีกับการไฟฟ้าฯ และจะปรึกษานักกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตึกคงไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป และคาดว่าต้องทุบทิ้ง

ด้านนางสาวจิตรา อัฐใจ ลูกจ้างร้านขายถุงพลาสติก ได้หนีตายออกจากตัวอาคารอย่างหวุดหวิด และได้เล่าวินาทีก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ว่า มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ มาตรวจสอบ และซ่อมแซมสายไฟบริเวณดังกล่าว ซึ่งพาดขนานไปกับตัวอาคารบริเวณชั้น 2 ของร้านค้าในละแวกเดียวกันนี้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าฯ เดินทางกลับ ตนเองและผู้ค้าอีกหลายคนสังเกตเห็นว่า บริเวณสายไฟที่หน้าร้านเกิดเสียงดังคล้ายไฟช็อต ในตอนแรกยังวิจารณ์กันอยู่ว่า เจ้าหน้าที่ไม่เก็บสายไฟให้เรียบร้อย หลังจากนั้นสักพักก็มีของเหลวไหลทะลักออกจากหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าร้าน ก่อนจะมีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ทำให้ตนเองต้องรีบวิ่งข้ามถนนหนีตายไปอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นเพลิงไหม้ก็ลุกลามจากหม้อแปลงไฟฟ้าเข้าสู่ตัวอาคารอย่างรวดเร็ว