"รมต. อนุชา" เผย สลากดิจิทัลกว่า 5 ล้านฉบับ ขายหมดเกลี้ยง ย้ำแอป "เป๋าตัง" มีความปลอดภัย ยืนยันต้องการแก้ปัญหา เป็นทางเลือกให้กับประชาชน ไม่ได้ต้องการเปิดขายเพื่อแข่งกับผู้ค้าสลากใบ

 

วันนี้ (วันที่ 6 มิถุนายน 2565) เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้น 3 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และพันโทหนุน ศันสนาคม ร่วมกันแถลงความคืบหน้ามาตรการในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากฯเกินราคา และการจำหน่ายสลากฯผ่านแพลตฟอร์ม หรือสลากดิจิทัล ซึ่งถือว่าเป็นภาพรวมในการทำงานของรัฐบาล ที่ทำให้ประชาชนสามารถซื้อสลากในราคา 80 บาทได้จริง ตามข้อสั่งการของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ไม่ต้องการให้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบเรื่องราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล

นายอนุชา กล่าวว่า การจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มแอปฯเป๋าตัง ในช่วง 4 วัน ที่ผ่านมา ว่า ประชาชนให้การตอบรับเป็นไปด้วยดี ระบบมีความราบรื่น เนื่องจากประชาชนมีความเคยชินกับระบบ รวมทั้งประชาชนผู้ซื้อให้ความสนใจ สามารถซื้อสลากตัวเลขที่ต้องการในราคา 80 บาทได้จริง ข้อมูล ณ ปัจจุบัน เวลา 13.04 น. สลากทั้งหมด 5,173,500 ฉบับ ถูกจำหน่ายหมดแล้ว ผ่านการซื้อของประชาชนจำนวน 1,247,406 คน ส่วนแนวโน้มในการเพิ่มปริมาณสลากจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มนั้น ขอเวลาในการประเมินผลการจำหน่ายและผลตอบรับประมาณ 2 เดือน เพื่อดูว่าในระยะยาวเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ หากจะต้องมีการเพิ่มปริมาณสลากฯในอนาคต เพื่อให้มีปริมาณสลากเพียงพอที่จะช่วยชี้นำตลาด ให้ราคาโดยรวมลดลงมาเหลือ 80 บาทให้ได้ จะต้องเกิดจากความพร้อมของพี่น้องตัวแทนจำหน่ายที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการด้วยความเต็มใจ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อผู้ค้าสลากใบด้วย จึงต้องประเมินให้รอบคอบก่อน ยืนยันวัตถุประสงค์ของการขายสลากดิจิทัลราคา 80 บาท เพราะต้องการแก้ปัญหาสลากเกินราคา และเป็นทางเลือกให้กับประชาชนเท่านั้น ไม่ได้ต้องการเปิดขายเพื่อแข่งกับผู้ค้าสลากใบ

นายอนุชา ย้ำ การจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มแอปฯ "เป๋าตัง" เป็นแอปฯที่รัฐใช้เป็นเครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และใช้ในการอุดหนุนกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาสลากฯเกินราคา ที่สำนักงานสลากฯ ดำเนินการอยู่นั้น ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเพิ่มความเข้มข้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการจุดจำหน่ายสลาก 80 ในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ กว่า 500 จุด และจะเรียกรายสำรองขึ้นมา เพื่อให้มีจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 ให้ครบ 1,000 จุด ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ และโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อจองล่วงหน้า กำลังเร่งดำเนินการคัดเลือกต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้